- 26 ส.ค. 2564
เพจเฟซบุ๊ก "ชมรมSTRONGต้านทุจริตภาคใต้" เผยที่มาการเงิน "ผู้กำกับโจ้" ทำอะไรมาถึงรวยอู้ฟู้ ครองรถหรูเกือบ 30 คัน มูลค่าหลายร้อยล้านบาท
จากคดีที่คนทั้งประเทศให้ความสนใจ เมื่อ "ผู้กำกับโจ้" พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ พร้อมด้วยลูกน้อง ได้รีดเงิน 2 ล้านบาทจากผู้ต้องหาคดียาเสพติด โดยใช้ถุงคลุมหัวจนขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตในที่สุด ภายหลังเกิดเหตุ ผู้กำกับโจ้ ก็ได้มีการบังคับให้ลูกน้องทำสำนวนในเชิงผู้ตายเสียชีวิตจากการเสพยาเกินขนาด ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเมื่อวันที่ 5 ส.ค. 64 ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 64 เกี่ยวกับเรื่องเพจเฟซบุ๊ก "ชมรมSTRONGต้านทุจริตภาคใต้" ได้มีการโพสต์ข้อความระบุถึงที่มาของเงิน ผู้กำกับโจ้ ว่ามาจากไหน ทำไมจึงมีเงินจำนวนมากมาซื้อรถหรูได้อย่างมากมาย โดยทางเพจได้ระบุข้อความว่า "เล่านิทานให้ฟัง..อดีตของนายตำรวจหนุ่มคนนึง ที่หลายคนถามไถ่สงสัยกัน ว่า เขาร่ำรวยมาได้อย่างไร?? ทำธุรกิจอะไรมา ก็มีข้อมูลวงใน เปิดเผยว่า เดิมพื้นฐานทางบ้าน พ.ต.อ. ธ.. ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยมาแต่ต้น แต่เป็นเพราะเขาเองที่ "หาเงินเก่ง" มาตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ และที่ทำให้ชีวิตพลิกผันเข้าขั้น "เศรษฐี" ขณะดำรงตำแหน่ง พ.ต.ท. ธ.. ตำแหน่ง รอง ผกก.กก.1 บก.ปส.... ดูแลพื้นที่ภาคใต้ นอกจากทำคดียาเสพติดรายใหญ่จนสร้างชื่อให้ตัวเองเป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติดมือฉมังแล้ว ก็ยังทำให้ได้คลุกคลีตีโมงกับผู้ต้องหายาเสพติดรายใหญ่ๆ ในวงการธุรกิจ "สีดำ" รวมไปถึงเปิดทางให้เข้าสู่วงการธุรกิจ "รังนก" ที่เป็นธุรกิจ "สีเทา" เกี่ยวกับอิทธิพลมาเฟีย อีกด้วย
ว่ากันว่า จากคอนเนคชั่นธุรกิจสีเทา ทำให้เขาเห็นโอกาสทำมาหากินกับ "รถหรู และซูเปอร์คาร์" แบบชนิดที่คาดกันไม่ถึง "ผู้กำกับ จ.. เริ่มจากเลือกรถหรูที่ฝั่งมาเลเซีย เพราะราคาถูกกว่าไทยเยอะ ยกตัวอย่าง BMW ราคาอยู่ที่ประมาณ 4 แสน ลงทุนซื้อที่มาเลย์แล้วลักลอบเอาเข้าไทย จากนั้นทำทีปั้นคดีว่า "จับรถ" โดยไม่มีคนเกี่ยวข้อง ทำนองเจอรถต้องสงสัย นำเข้าผิดกฎหมาย
คดีแบบนี้ปลายทางจะทำให้รถถูกส่งให้ศุลกากร แล้วเมื่อคดีเสร็จสรรพ ศุลกากรก็จะนำออกขายทอดตลาดด้วยวิธีประมูล สมมติ ว่า BMW คันดังกล่าว ประมูลได้ในราคา 2 ล้าน สิ่งที่ ผู้กำกับ จ.. จะได้ตามมา คือ 1. รางวัลนำจับ และ 2. ค่าสายข่าว ทั้งสองส่วนนี้คิดเป็น 45% ของราคา 2 ล้าน หรือ 900,000 ทันที เท่ากับว่า รถ BMW คันนี้ หักทุน 400,000 บาทแล้ว ผู้กำกับ จ.. จะได้กำไร 500,000 บาท
ว่ากันว่า นายตำรวจหนุ่ม ทำลักษณะนี้หลายครั้ง มีรถหรู-สปอร์ตคาร์ หลายยี่ห้อที่นำเข้าจากมาเลย์ ด้วยวิธีลงทุนเอง จับเอง ส่งศุลกากร บางคันจะเก็บไว้ใช้เอง ก็อาจจะฮั้วกับเจ้าหน้าที่กรมศุลฯ ปล่อยราคาถูกๆ หรือถอดอะไหล่ ถอดอุปกรณ์บางอย่างออกให้ราคาตก ช่วงพีคๆ กรมศุลฯ จัดประมูลรถลักษณะอย่างนี้ทุกเดือน เดือนหนึ่งก็ราวๆ 400 คัน ว่ากันว่า เป็นรถในเครือข่ายของ ผู้กำกับ จ.. เสีย 50% คำนวณดูเอาว่า แต่ละเดือนจะมีรายได้เท่าไหร่ ? แถมเป็นเงินที่ถูกกฎหมาย เพราะเป็นรางวัลนำจับ และค่าสายข่าว ที่ศุลกากรต้องจ่ายตามกฎ ตอนหลังถูกจับตา ศุลกากรจึงต้องยกเลิกประมูลรถที่มีที่มาจากฝั่งมาเลย์
แต่ก็มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างกันถึงทุกวันนี้ ว่า เครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องใช้สำนักงานในศุลกากร เป็น ผู้กำกับ จ.. อภินันทนาการไว้ให้ราชการใช้จำนวนมาก นี่เป็นเรื่องราวที่เล่าขานในแวดวงตำรวจ ถึงเส้นทางร่ำรวย ไฮโซ มีเงินมีทอง เป็นเจ้าของซูเปอร์คาร์ ทั้ง ลัมบอร์กินี ปอร์เช่ เฟอร์รารี่ BMW และยี่ห้อดังอื่นๆ ของ ผู้กำกับ จ... ที่ไม่ธรรมดาจริงๆ แต่ก็นั่นแหล่ะเพราะ กรรมตามทัน จึงต้องหนีจากทุกอย่างที่เคยสร้างมา..."
ขอบคุณ FB : ชมรมSTRONGต้านทุจริตภาคใต้