- 27 ส.ค. 2564
"ทนายตั้ม" ห่วงความปลอดภัยผู้ที่ส่งเบาะแส-คลิป เผยพวกเขาไม่ได้อยู่ในที่สว่างแบบผม
เรียกได้ว่าสิ้นสุดการไล่ล่า เมื่อ “อดีตผู้กำกับโจ้” ถูกจับกุม ซึ่งหลังจาก อดีตผู้กำกับโจ้ มาถึงกองบังคับการปราบปรามแล้ว ก็มี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร., พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.ภ.7, พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.ปส.3, พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รอง ผบช.ภ.6 และเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องร่วมสอบปากคำ
ซึ่งขณะนั้นสภาพอดีตผู้กำกับโจ้ หลังเข้าขอมอบตัวก็มี สีหน้าแววตา เศร้าหมอง หมดราศี อีกทั้งอยู่ในสภาพอิดโรย เเละผอมลงไปมาก
จากการเปิดปากสารภาพครั้งแรกของ อดีตผู้กำกับโจ้ ผ่านการโฟนอินโดยมีทนายความส่วนตัว และตำรวจอยู่ด้วยนั้น ก็ได้กล่าวว่า "เหตุที่เกิดขึ้นเพราะต้องการขยายผลยาเสพติดต่อ ที่ต้องกระทำรุนเเรงเป็นเพราะผู้ต้องหารายนี้เป็นรายใหญ่ระดับภาคกลาง แต่พลาดที่ทำให้ผู้ต้องหาเสียชีวิต เนื่องจากอยากได้ข้อมูล ยืนยันไม่เคยมีการข่มขู่เรียกเงิน 2 ล้านบาท จากผู้ต้องหา
หลังจากเกิดเหตุเห็นข่าวจับกุมลูกน้อง รู้สึกสงสารลูกน้อง เลยตัดสินใจติดต่อนายตำรวจที่เคารพเพื่อขอมอบตัวที่ จ.ชลบุรี ยืนยันว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ลูกน้องห้ามเเล้วเเต่ไม่ฟัง ขอรับความผิดนี้เเต่เพียงผู้เดียว อีกทั้ง “อดีตผู้กำกับโจ้” ยังได้เผยจำนวนเงิน ช่วยค่าทำศพครอบครัว “ผู้ต้องหา” หลังใช้ถุงคลุมหัวจนเสียชีวิต ว่าช่วยครอบครัวไปจำนวน 3 หมื่นบาท" ต่อมาได้ถูกถามถึงคนปล่อยคลิป ซึ่ง โจ้ ได้บอกว่า "ผมอโหสิกรรมให้เขา"
และหลายคนคงทราบดีอยู่แล้ว ผู้ที่เป็นคนปล่อยคลิปวิดีโอดังกล่าว ก็คือนายตำรวจชั้นผู้น้อย ได้ส่งคลิปให้กับทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ต่อมาทนายตั้มได้ออกมาเผยว่าห่วงความปลอดภัยของทุกคนที่ส่งข้อมูลและคลิปฆาตกรรมผู้ต้องหาให้ โดยระบุว่า
"สิ่งหนึ่งที่ผมกังวลเป็นอย่างมาก คือความปลอดภัยของทุกคนที่ส่งข้อมูลและคลิปฆาตกรรมผู้ต้องหาให้ผม พวกเขาไม่ได้อยู่ในที่สว่างแบบผม ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาบ้าง มันไม่ง่ายเลยนะครับ ที่ใครสักคน จะกล้าเปิดโปงฆาตกรที่มีพฤติกรรมโหดร้ายแบบนี้ ยังไงฝากทุกคนเป็นกำลังใจกันด้วยนะครับ"