ห้อยพระอะไร"ผู้กำกับโจ้"ถึงกล้าลั่นขอสาบานกับพระที่ห้อยคอ

   กรณีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  นำทีมเเถลงปิดคดี"ผกก.โจ้" พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ เมื่อวันที่26 ส.ค.64 ที่กองบังคับการปราบปราม  โดยพ.ต.อ.ธิติสรรค์ ยังยืนยันว่า ไม่มีเจตนาทำให้ผู้ต้องหาเสียชีวิต ส่วนในชั้นศาลจะพิจารณาอย่างไร ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม โดยขอให้การในชั้นศาล พร้อมขอโทษประชาชนที่มีภาพดังกล่าวหลุดรอดออกไป พร้อมย้ำตั้งใจทำงานไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์

ในช่วงการโฟนอินของ ผู้กำกับโจ้ นั้น มีช่วงหนึ่งที่ได้ตอบข้อซักถามสื่อมวลชน ว่า  ส่วนที่เอาถุงพลาสติกครอบหัวนั้นเจตนาเพื่อไม่ให้ผู้ต้องหาเห็นหน้า และเขาเอามือพยายามฉีกถุง จึงเอามือไพล่หลังไว้ ..ก่อนหน้าไม่เคยซ้อมทรมานผู้ต้องหา ครั้งนี้เป็นครั้งแรก สำหรับเงินหนึ่งล้านบาทนั้น ขอสาบานกับพระที่ห้อยคอ ว่าชีวิตรับราชการมาไม่เคยทุจริตเรื่องเงิน
 

 เเละประโยคดังกล่าวที่ออกมาจาก ผกก.โจ้ นั่นเอง ทำให้เกิดข้อสัย มีการตั้งคำถามว่า ผกก.โจ้ ห้อยพระอะไร  แต่จากที่สังเกตจากภาพไม่มีสายสร้อยพระที่สวมคอ ผกก.โจ้  ซึ่งเรื่องนี้แหล่งข่าวที่ใกล้ชิด ผกก.โจ้ เปิดเผยกับ "เนชั่นออนไลน์" ว่า นายตำรวจระดับสูงจะบูชาพระแต่ละรุ่นแตกต่างกันไป  แต่นายตำรวจ 80% จะบูชาพระ “หลวงพ่อโสธร รุ่นประวัติศาสตร์ 80 ปีกรมตำรวจ” จัดสร้างโดย กรมตำรวจในสมัย พล.ต.อ พจน์ บุญยะจินดา สมัยเป็นอธิบดีตำรวจ  สร้างในปี 2538
 

หลวงพ่อโสธร รุ่นประวัติศาสตร์ 80 ปี กรมตำรวจ จัดสร้างขึ้นเมื่อปี 2538 เพื่อนำรายได้มาเป็นสวัสดิการให้กับข้าราชการตำรวจ โดยมีพิธีมหาพุทธาภิเษก ที่พระอุโบสถวัดโสธรวราราม พระหลวงพ่อโสธร ทุกองค์มีหมายเลขกำกับ โดยมีเนื้อ เนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อเงินชุบสามกษัตริย์ และ เนื้อทองแดง
 

  สำหรับ หลวงพ่อโสธร รุ่นประวัติศาสตร์ 80 ปีกรมตำรวจ มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังจากทั่วประเทศ ทั้ง 4 ภาค จำนวน 108 รูป ร่วมพิธีอธิษฐานจิตปลุกเสก อาทิ ครูบาดวงดี จ.เชียงใหม่ , ครูบาชัยวงศ์ษา จ.เชียงใหม่ , หลวงพ่ออุตตมะ จ.กาญจนบุรี, หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม, หลวงพ่อพุฒ จ.นครปฐม, หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม จ.นครปฐม, หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ จ.สมุทรสงคราม , หลวงปู่ทิม วัดพระขาว จ.อยุธยา, หลวงพ่อชม จ.ชลบุรี, หลวงปู่คร่ำ จ.ระยอง, หลวงพ่อสมชาย จ.จันทบุรี, หลวงปู่คำพันธุ์ จ.นครพนม, หลวงพ่อหยอด จ.สมุทรสงคราม , อาจารย์นอง วัดทรายขาว จ.ปัตตานี เป็นต้น

 
ในส่วนความคืบหน้าเมื่อวันที่ 27 ส.ค.64 พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า  อยู่ระหว่างอยู่ระหว่าง ขั้นตอนการทำเอกสารเพื่อขอเพื่อย้ายสำนวนคดี 7 นายตำรวจ มาให้กองบังคับการปราบปรามเป็นผู้รับผิดชอบ เนื่องจากที่ผ่านมากองปราบได้เข้าร่วมปฏิบัติการกับกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค6 และจ.นครสวรรค์ มาโดยตลอดจึงมีความเข้าใจ และมีความคล่องตัวในการขยายผลไปถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และยืนยันว่า หากการขยายผลพบบุคคลใดเกี่ยวข้องเพิ่มเติมจะไม่มีการละเว้น  
 

 
ส่วนเรื่องคำให้การไม่ว่าผู้ต้องหาหรือผู้เกี่ยวข้องจะให้การอย่างไรถือเป็นสิทธิ แต่หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด รวมทั้งมีการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเส้นทางการเงิน และทรัพสินของผู้ต้องหาทั้งหมด หลังสังคมมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการร่ำรวยผิดปกติของผู้กำกับโจ้  

 
นอกจากยังสั่งให้พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก ในฐานะกำกับดูแลงานด้านยาเสพติด ไปตรวจสอบประวัติ และพฤติกรรมในการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับยาเสพติดทั่วประเทศ โดยหากพบว่า มีบุคคลใดมีประวัติหรือพฤติกรรมไม่ดีเกี่ยวกับยาเสพติดเคยถูกร้องเรียนจะต้องมีบทลงโทษ ทั้งผู้ปฏิบัติและผู้บังคับบัญชา  

 

พร้อมทั้งยืนยันว่า ส่วนตัวไม่รู้สึกเครียดหรือโล่งใจที่สามารถจับกุมแก๊งผู้กำกับโจ้ได้ เพราะเป็นหน้าที่ของตัวเองในฐานะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติซึ่งยืนยันว่า หากพบตำรวจคนใดทำผิดกฎหมายจะต้องดำเนินการอย่างแน่นอน

ขอบคุณ

nation online