ชาวสวนน้ำตาตกใน ราคาลำไยตกต่ำไม่คุ้มต้นทุนผลผลิต ตัดใจโค่นทิ้งทั้งสวนขายทำฟืน

จากกรณีที่ชาวสวนลำไยทางภาคเหนือที่กำลังเผชิญปัญหาอยู่ในขณะนี้ ซึ่งก็คือปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ ทำให้พี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกลำไยถึงกับเครียดไปตามๆกัน ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ก.ย. 64 เจ้าของสวนลำไยในบ้านกู่แดง ต.หนองแฝก อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ได้ตัดสินใจตัดต้นลำไยที่กำลังออกผลผลิตลูกโตๆติดต้นจำนวนมาก ก่อนที่จะนำต้นลำไยไปเป็นฟืนขายเข้าโรงงานอบแห้งลำไยและใช้เป็นฟืนในการหุงต้มอาหารในครัวเรือน 

ทั้งนี้ ทางเจ้าของสวน เผยสาเหตุที่ต้องตัดต้นลำไยทิ้ง เพราะราคาผลผลิตตกต่ำมาก และแต่ละปีที่ขายได้เงินมาไม่คุ้มค่ากับต้นทุนที่จ่ายไป ทั้งค่าจ้างคนงานตัดแต่งกิ่ง ค่าปุ๋ย ค่ายาฆ่าแมลง ค่าสารเร่ง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าจ้างคนงานเก็บคนละ 500-700 บาทต่อวัน, ค่าคนงานรูดและเก็บใส่ตะกร้า คนละ 250-300 บาทต่อวัน ซึ่งแต่ละวันต้องใช้คนงานรวมแล้วหลายคน แต่เมื่อนำลำไยไปขายได้ราคาเกรด AA กิโลกรัมละ 12 บาท, เกรด A กิโลกรัมละ 3 บาท, เกรด B กิโลกรัมละ 2 บาท ส่วนเกรด C ไม่รับซื้อ เมื่อได้เงินมายังไม่พอค่าจ้างคนงานที่จ่ายไปด้วยซ้ำ และไม่เหลือเงินให้เจ้าของสวนที่ลงทุนไปตลอดทั้งปีเลย

ตนเองจึงตัดสินใจโค่นต้นลำไยทิ้งทั้งหมด และจะปรับพื้นที่ปลูกพืชอย่างอื่นแทน เช่น มะพร้าว หรือทำสวนอย่างอื่น ส่วนไม้ลำไยที่ได้ขายนำไปทำฟืนหุงต้มในครัวเรือน รวมทั้งโรงงานอบแห้งลำไย ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองได้เก็บลำไยไปขายครั้งล่าสุดได้เงิน 1,200 บาท หักค่าคนงานเหลือเงินเพียง 200 บาท จึงเลิกเก็บลำไยขาย ปล่อยให้ค้างไว้บนต้นและตัดสินโค่นต้นลำไยทิ้งเพื่อขายเป็นฟืน