- 13 ก.ย. 2564
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า
ข้อมูลที่รายงานในต่างประเทศ น่าจะทำให้ใจชื้นได้ระดับหนึ่ง ว่าถ้าติดเชื้อไปแล้วอาจไม่ต้องฉีดวัคซีนอีกเพราะโอกาสติดเชื้อน้อย
แต่ข้อสำคัญคือเราไม่ทราบว่าไวรัสขณะนี้เป็นตัวเดิมหรือไม่และภูมิที่มีอยู่จะปกป้องได้เท่าใด
หลักฐานจาก การตอบสนองในระดับเซลล์ทั้ง 2 ชนิด (T และ B cell )
ในต่างประเทศพบว่าคนที่ติดเชื้อแบบธรรมดาไปแล้วนั้น จะมีการตอบสนองของTเซลล์ ต่อ S2 และ nucleocapsid นานมากกว่าภูมิที่เห็นในน้ำเหลือง และเปรียบเสมือนเก็บไว้เป็นความจำ
ดังนั้นถ้าทราบว่าติดแล้วก็อาจไม่ต้องฉีดอีก
แต่ในความเป็นจริงอาจจะไม่ใช่เช่นนั้นเสมอไป เนื่องจากภูมิความจำอาจจะหดหายไปได้เร็วจากการศึกษาในประเทศไทยเอง
และมีรายงานเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ติดเชื้อซ้ำซ้อนกันหลายครั้งจากอัลฟ่าสองครั้งและต่อมาเป็นเดลต้า แม้ฉีดวัคซีนแอสตร้าครบแล้วสองเข็ม
และต้องไม่ลืมว่าแม้ว่าจะชื่อเป็นชื่อเดิม แต่ส่วนประกอบของใวรัสมีการผันแปรไป
ทั้งนี้โดยที่ความจำที่มีอยู่
ขี้เกียจทำงาน อยู่เฉยๆ หรือไม่ก็กลับไปทำให้การติดเชื้อนั้นรุนแรงขึ้นหรือทำให้ติดเชื้อนั้นง่ายขึ้นกว่าเดิมและเพิ่มจำนวนได้มากกว่าเดิม
ดังนั้น ประการสำคัญต้องไม่ลืมว่า ติดไปแล้ว ยังมีโอกาสติดเชื้อได้ใหม่อย่างแน่นอนถึงแม้ว่าและหวังว่า อาจจะน้อยลงและความรุนแรงน่าจะไม่มาก ซึ่งไม่จริง 100% เสมอไป
จากนั้นกลับมาที่รูปเดิมคือเคยติดเชื้อไปแล้วคือฉีดกระตุ้น ที่ 3 เดือน แล้วใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อย รักษาระยะห่างตามปกติ