- 22 ก.ย. 2564
ศูนย์วิจัยคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เผยผลการศึกษาวัคซีนไขว้ พบว่าการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เข็มที่ 1 ตามด้วยวัคซีนไฟเซอร์ เข็มที่ 2 ได้ระดับภูมิคุ้มกันสูงสุด
เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 64 ศูนย์วิจัยคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เผยผลการศึกษาการฉีดวัคซีนไขว้ เทียบการฉีดด้วยวัคซีนชนิดเดียวกัน ผ่านเพจเฟซบุ๊ก Siriraj Institute of Clinical Research โดยระบุว่า อัพเดตผลการศึกษาการฉีดวัคซีนไขว้ เทียบการฉีดด้วยวัคซีนชนิดเดียวกัน จากผลการศึกษาวิจัยโดยศูนย์วิจัยคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล สรุปได้ว่า
1. การฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เข็มแรก ตามด้วยวัคซีนไฟเซอร์ เข็มที่ 2 ได้ระดับภูมิคุ้มกันสูงสุด 2,259.9 หน่วยต่อมิลลิลิตร
2. การฉีดวัคซีนซิโนแวค เข็มแรก ตามด้วยวัคซีนไฟเซอร์ เข็มที่ 2 ได้ระดับภูมิคุ้มกันดีรองลงมาที่ 2,181.8 หน่วยต่อมิลลิลิตร
3. การฉีดวัคซีนซิโนแวค เข็มแรก ตามด้วยวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เข็มที่ 2 ได้ระดับภูมิคุ้มกัน 1,049.7 หน่วยต่อมิลลิลิตร
ดังนั้น การใช้วัคซีนซิโนแวคเป็นเข็มแรก แล้วตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้าหรือไฟเซอร์ เป็นเข็มที่ 2 สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี และการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็มแรก ควรตามด้วยวัคซีนไฟเซอร์ เป็นเข็มที่ 2
นอกจากนี้ผลการศึกษายังไม่มีปัญหาเรื่องอาการข้างเคียงหลังฉีดเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 ในระยะเวลาห่างกันประมาณ 4 สัปดาห์ ทั้งนี้ ควรมีการศึกษาประสิทธิภาพและประสิทธิผลการป้องกันการติดเชื้อในผู้ที่ได้รับวัคซีนเพื่อยืนยันภูมิคุ้มกันจากการศึกษานี้
ขอบคุณ FB : Siriraj Institute of Clinical Research