ครูชาวดอย สุดอัดอั้น เข้ารักษาตัวผ่าตัดเนื้องอกฉุกเฉิน สุดท้ายถูกผอ.บีบออก จนตกงาน

เรียกว่าเป็นเรื่องราวที่ทำเอา ครูชาวดอย รายหนึ่งนั้น ทนไม่ได้ไหวออกมาระบายผ่านโลกโซเชียลเพื่อขอความเห็นใจ โดยเฟซบุ๊ก Beam Channel สาวลัวะอยากเป็นยูทูปเบอร์ โดยเธอได้โพสต์ข้อความระบุว่า ครูชาวดอย สอนในโรงเรียน ตชด.แห่งหนึ่งซึ่งการเดินทางค่อนข้างจะลำบากมาก และในวันหนึ่งเธอมีอาการปวดท้องหนักมาก บริเวณท้องน้อยบวมใหญ่ เธอจึงแจ้งในไลน์กลุ่มของโรงเรียนว่า ปวดท้องมากๆ ช่วยหารถส่งไปโรงพยาบาลให้หน่อย โดยเพื่อนๆ ครู และเหล่านักเรียนก็มาช่วยปฐมพยาบาลให้และประสานครูผู้ชายไปหารถให้ จนเดินทางไปหาหมอ หลังจากรอผลเลือดหลายวัน ก็พบว่าเลือดมีค่ามะเร็งสูง ต้องมีการส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลใหญ่

หลังจากการผ่าตัดก็ได้พบว่า ครูชาวดอย มีอาการซีสรั่ว มีขนาด 13 เซนติเมตร และ 15 เซนติเมตร แต่โชคดีที่ซีสยังไม่กลายเป็นมะเร็ง หมอทำการเลาะผ่าตัดให้หมดแล้ว รังไข่ยังอยู่ครบ ตอนนี้หนูปลอดภัย หลังการผ่าตัดบีมพักฟื้นอีกนาน แผลผ่าตัดใหญ่มากพอๆกับคนผ่าคลอด

เพื่อนคนไหนที่ปวดท้องเวลาเป็นประจำเดือนอย่าชะล่าใจ ควรไปหาหมอไปตรวจไปขอคำปรึกษา ที่ผ่านมาเวลาบีมมีประจำเดือนบีมจะปวดมาก ปวดหลัง นอนไม่หลับ ปวดหัวร่วมด้วย จะเป็นแบบนี้ทุกครั้ง ต้องทานยาแก้ปวด พอนสะเเตนตลอดเคยไปหาหมอเเต่ก็ไม่ได้รับการตรวจหมอบอกเป็นอาการปกติของคนมีปจด. (ซึ่งตอนนั้นบีมก็กำลังเข้าสู่วัยรุ่น) ไม่มีใครอยากป่วย  ไม่มีใครอยากโดนมีดหมอ ป่วยไม่ใช่เรื่องสนุก ฉันไม่ได้แกล้งป่วย ฉันไม่ได้ทิ้งงาน ฉันไม่ได้อยากเอาเปรียบเพื่อนร่วมงาน 

ขอเเชร์ประสบการณ์เพื่อเป็นข้อคิดให้ทุกคนหันมาดูแลตัวเอง สังเกตตัวเอง พีคสุดตอนนั้นเราป่วยฉุกเฉิน​ไม่ได้เขียนใบลาเราจึงตกงานเนื่องจากว่าผู้ใหญ่ ว่าเราขาดงานราชการเกิน15วัน และบอกว่าบีมไม่เเจ้งให้ทางโรงเรียน​หรือครูคนใดทราบเลย เลยไม่รู้ว่าเราหายไป ด้วยสาเหตุใด ในวันที่ฉันเจ็บฉุกเฉิน ฉันเเจ้งในไลน์กลุ่ม และขอครูหารถให้หน่อย มีครูที่รีบขึ้นมาที่ห้องพัก มีครูที่นั่งรถไปส่ง และมีผู้ปกครองมาที่โรงเรียนเพราะครูศาสนาคริสต์มาแบ่งเนื้อหมูให้ชาวบ้าน คุณจะเห็นฉันนอนเจ็บท้องได้อย่างไงในเมื่อคนอยู่บ้านไม่ขึ้นมา ทำงาน ไม่ขึ้นโรงเรียน รออ่านไลน์ สั่งงานจากข้างล่าง ถ้าจะบอกว่าไม่เห็นบีมทำงานที่โรงเรียนก็ไม่ผิดนะคะ เพราะบีมก็ไม่เห็นคุณมาทำงานเลยตั้งเเต่เปิดเทอม โรงเรียนก็ไม่ขึ้น เเต่ยังรายงานว่าตัวเองปฏิบัติหน้าที่ ที่โรงเรียนทุกวัน ลูกป่วยไปหาลูกก็ยังรายงานว่าตนมาทำงาน และอีกหลายๆอย่างคุณรายงานเท็จ บางทีก็ งง วันที่ฉันพัก((ทำงาน20พัก10ใช้ปฏิทินดอย))

ทำไมต้องรายงานว่าฉันขาด และคุณก็พักคุณก็รายงานว่าตนมา วันที่ ครูชาวดอย ป่วยมีใบลามีใบรับรองแพทย์ก็รายงานว่าฉันขาด ในวันที่ฉันใช้สิทธิลาป่วยหมด คุณให้ฉันจ้างคนมาทำงานแทน(กฏหมายไม่มีการแจ้งคนทำงานแทน)คุณก็ยังรายงานว่าฉันขาด คนของคุณจ้างคนมาทำงานแทนวันละ150บาทคุณโอเค แต่ฉันจ้างวันละ200บาท คุณบอกว่าน้อย ให้จ้าง300บาท ทุกครั้งในทางปฏิบัติไม่ต้องเขียนก็ได้เเค่บอกกล่าวกัน คุณเป็นคนบอกเอง และทุกคนก็ปฏิบัติตาม แล้วมาเอาผิดฉันทำไม บอกว่าถ้าเราไม่สบายคนในครอบครัวไม่สบายให้บอกกัน เราอยู่กันแบบนี้ง่ายๆ ถ้าเราไม่สบาย คนในครอบครัวไม่สบายไม่มีใครสามารถแทนเราได้ แต่องค์กรถ้าไม่มีเราเขาก็หาคนมาแทนเราได้ นี่คือคำพูดของคุณ และเป็นกับดักที่คุณจะเอาผิดคนใต้บังคับบัญชา แล้วทำไมคุณไม่เอาผิดทุกคนล่ะ เดี๋ยวลาบอกป่วย เดี๋ยวลูกคุณป่วย เดี๋ยวลูกครูคนอื่นป่วย นี่ฉันไงคนที่รอสแตนบายคนที่ทำงานแทนพวกคุณฉันนี่ มันตกมาที่ฉันค่ะ ก็เข้าใจมาตลอดว่าไม่มีใครอยากป่วย และฉันเต็มที่มาตลอด พอฉันป่วยบ้าง ทำไมทำกับฉันแบบนี้ รอเหยียบ รอซ้ำ คำว่าสำออย คำว่าตายหรือยัง มันหลุดออกมาจากปากคุณได้อย่างไง คนที่ลาคลอดเกินสามเดือนเกินไปหลายเท่าทำไมรายงานว่ามาทำงานปกติฉันไม่เข้าใจระบบการบริหารของคุณคนนี้ หรือเพราะฉันไม่ได้เป็น ราชการ.เหมือนคุณ#ทุกคนรู้เพื่อนครูรู้นักเรียนรู้ชาวบ้านรู้รู้ว่าบีมเป็นอะไรหายไปไหนอาการขนาดไหน 

ยื่นหนังสือร้องทุกข์ไปที่กองกำกับไม่เป็นผล ยื่นร้องทุกข์ไปที่สำนักเขตพื้นที่การศึกษาแล้ว ก็ถูกเขตปฏิเสธความรับผิดชอบฉันไม่มีเงินจ้างทนาย เป็นครูน้อยต้องยอมรับใช่ไหมว่าจะตกงานได้ตลอดเวลามันอยู่ที่ปลายปากกาของคุณตามที่คุณบอกจริงๆใช่ไหมหลักฐานมันไม่ช่วยอะไรใช่ไหม

จะมีใครช่วยฉันได้บ้าง ช่วยหนูด้วย เรื่องมันต้องดังใช่ไหม คนต้องรู้ทั้งประเทศใช่ไหม ถึงจะได้รับความเป็นธรรม Ch3Thailand  โหนกระแส ทนายคลายทุกข์ ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ฝากแชร์ค่ะเพื่อให้ทุกคนหันมาดูแลตัวเอง เพื่อคนเป็นธรรมทานมากขึ้น มันเป็นภาพจำที่เจ็บปวดมากในวงการครูที่ฉันเจอ