- 05 ต.ค. 2564
กูรูน้ำ เผย ไลออนร็อค-คมปาซุ"จ่อเข้าไทยติดๆ หวั่นอีสานอ่วมหนัก เตรียมเครื่องสูบน้ำไว้ให้ดี
วันที่ 5 ตุลาคม 2564 คุณชวลิต จันทรรัตน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) TEAMG หรือทีมกรุ๊ป ซึ่งมีประสบการณ์ความชำนาญในด้านการบริหารจัดการน้ำมากกว่า 30 ปี วิเคราะห์สถานการณ์พายุ ที่จะเข้าประเทศไทย ในช่วงเดือนต.ค. ว่า ขณะนี้ที่มหาสมุทรแปซิฟิก มีพายุ 2 ลูกคือ ลูกแรก หมายเลข 17 ไลออนร็อค หรือหินสิงห์โต ก่อตัวที่ฟิลิปปินส์ เคลื่อนตัวมาทางตะวันตกเฉียงเหนือ ผ่านทะเลจีนใต้
ส่วนพายุหมายเลข 18 คมปาซุ (kompasu) เป็นภาษาเกาหลี ก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิก ขึ้นฝั่งที่หัวเกาะฟิลิปปินสน์ อิทธิพลของหมายเลข 18 จะดึงพายุไลออนร็อค ขึ้นไปทางเหนือไปเกาะไหหลำ จากนั้นเคลื่อนไปทางตะวันตก ขึ้นฝั่งเมืองวิญ เหนือกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ประมาณวันที่ 11 ต.ค. จากเดิมที่คาดไว้ขึ้นฝั่งประมาณวันที่ 8 ต.ค.นี้
พายุไลออนร็อค จะเข้าไทยที่ จ.นครพนม หนองคาย อุดรธานี แต่แรงมากพอที่จะข้ามภูเขา ไปถึง จ.น่าน เพราะพายุหมายเลข 18 ดึงไลออนร็อค ไว้ ดังนั้น ผลกระทบกับประเทศไทยจึงไม่มาก แต่จะมีบ้างแถวลุ่มน้ำสงคราม และในตัวเมืองอุดรธานี จะต้องเตรียมพร้อมรับมือพายุ
ขณะที่ทิศทางพายุคมปา:6 จะขึ้นฝั่งที่เมืองดานัง เคลื่อนทางทิศตะวันตก มาเข้าไทยที่ จ.อุบลราชธานี มาตามรอยพายุเตี้ยนหมู่ ซึ่งเป็นที่หนักใจ เพราะถ้าพลังงานมาก วันที่ 13-15 ต.ค. จะมีฝนตกมากในลุ่มน้ำชี ปัจจุบันน้ำชีระบายยังไม่หมด น้ำชีที่จ.ชัยภูมิ จะไหลมาที่จ.ขอนแก่น มหาสารคาม ยังมีปริมาณมาก
ดังนั้น ถ้าพายุโคมปาสึ เข้าตามเส้นทางนี้ ไม่เปลี่ยนแปลงจะทำให้พื้นที่ภาคอีสานตั้งแต่ จ.อุบลฯ ยโสธร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ขอนแก่น ชัยภูมิ หนักอีกรอบหนึ่ง แต่ผลดี คือ เติมน้ำในอ่างเก็บน้ำลำปาว
ส่วนกำลังพายุคมปาซุ จะมากพอข้ามเขาดงพญาเย็นหรือไม่ ตอนนี้คิดว่า พายุคมปาซุ จะสลายตัวที่จ.ชัยภูมิ อย่างไรก็ตาม ประมาณวันที่ 7-8 ต.ค. จะเห็นภาพชัดเจน และโดยระยะทางที่วิ่ง ไม่มีโอกาสที่พายุไลออนร็อค จะรวมตัวกับ พายุคมปาซุ ได้ เพราะระยะทางที่ห่างกันมาก แม้พายุจะพยายามรวมตัวกัน แต่มีเกาะฟิลิปินส์ ขวางอยู่การจะมารวมกันจึงเป็นไปไม่ได้