สาวเผยบทเรียนราคาแพง หลังเก็บลูกนกตกจากรังมาเลี้ยง

สาวตั้งกระทู้พันทิป เผยบทเรียนราคาแพงหลังเก็บลูกนกตกจากรังมาเลี้ยง เพื่อให้ความรู้และเป็นอุทาหรณ์ให้แก่ผู้ที่ความเมตตาสัตว์โลก

ในโลกออนไลน์ได้มีการนำกระทู้ของสมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอมรายหนึ่งที่โพสต์ไว้เมื่อปี 2558 มาแชร์ซ้ำอีกครั้ง เพื่อเป็นการให้ความรู้แก่ผู้ที่มีใจเมตตาต่อสัตว์โลกได้รู้เป็นอุทาหรณ์ โดยผู้โพสต์ได้มีการตั้งหัวข้อว่า "บทเรียนราคาแพง กับการเลี้ยงลูกนกตกจากรัง" ซึ่งต้องการแบ่งปันประสบการณ์การเก็บลูกนกมาเลี้ยง และแบ่งปันการเลี้ยงนกที่ถูกต้อง ซึ่งมีการระบุว่า

 

สาวเผยบทเรียนราคาแพง หลังเก็บลูกนกตกจากรังมาเลี้ยง

 

"สวัสดีค่ะ เราขอแชร์ประสบการณ์ และอุทาหรณ์จากการเลี้ยงลูกนกที่ตกลงมาจากรังนะคะ เพราะข้อมูลในอินเตอร์เน็ตก็มีอยู่เยอะ ถูกบ้างผิดบ้าง เราจึงอยากเล่าจากประสบการณ์ตรงของเราไว้ เผื่อจะเป็นประโยชน์บ้าง เราไปงานรับปริญญาที่เอแบคกับแฟน อยู่ดีๆก็มีลูกนกมายืนอยู่ตรงคอแฟนเราตอนไหนไม่รู้ค่ะ ขนเริ่มขึ้นแล้ว กระโดดระยะใกล้สักคืบหนึ่งได้

 

แจกโค้ดส่งฟรีลาซาด้า

เรากับแฟนเดินหารังลูกนกเผื่อจะเจอ แต่บริเวณนั้นเป็นต้นไม้สูงมาก ไม่รู้ว่ามองไม่เห็นหรือว่ารังนกไม่ได้อยู่แถวนั้น แต่ถ้าเจอรังก็คงปีนขึ้นไปไม่ได้อยู่ดี เพราะต้นไม้เป็นแบบสูงชะลูดไม่มีกิ่งก้านให้ปีนเลย เราจึงตัดสินใจนำลูกนกกลับมาดูแลเอง เพราะถ้าปล่อยไว้บนพื้นแถวนั้น ยังไงก็ตายแน่นอน ระหว่างที่ยังไม่เสร็จธุระจากที่เอแบค เราไปซื้อข้าวโพดตรงเซเว่นมาบดป้อนเพราะกลัวนกหิว ลูกนกก็ดูจะกินได้ดี แต่ติดตรงที่มันชิ้นใหญ่ แอบกลัวนกติดคอ


เราลองหาข้อมูลในเน็ตดู เค้าบอกให้ใช้อาหารแมวหรืออาหารสุนัขแช่น้ำให้นกกินได้ แต่วันนั้นไม่ได้กลับบ้านด้วย เลยไปร้านขายยาซื้อซีรีแล็คกับไซริงค์มาป้อน เภสัชกรบอกว่าใช้ให้อาหารนกได้จริงๆ เราเคยเลี้ยงนกแก้ว ร้านที่ที่ซื้อนกมาตอนนั้นเค้าบอกให้ใช้ซีรีแล็คป้อน ซึ่งนกแก้วเราตอนนั้นก็เลี้ยงจนโต เราจึงคิดว่าไม่น่ามีปัญหา เราเลี้ยงไว้ในกล่องที่มีรูระบายอากาศ แง้มฝาไว้นิดเดียวเพราะกลัวนกหนาว พยายามดูบ่อยๆเวลานกตื่นลองยื่นซีรีแล็คให้ถ้านกหิวก็จะอ้าปากขอ

 

สาวเผยบทเรียนราคาแพง หลังเก็บลูกนกตกจากรังมาเลี้ยง


พอนกกินเข้าไปตรงถุงลมข้างๆ คอจะป่องขึ้นนิดนึง ตรงนั้นเป็นจุดพักอาหาร ตอนแรกก็ตกใจว่าทำไมมันพองจัง จากเย็นวันที่ 14 ที่เจอนก เราก็ป้อนอาหารเอง หรือเวลาเราไม่อยู่ก็ฝากพ่อดู และกำชับว่าคอยดูให้ด้วย ป้อนอาหารบ่อยๆ เพราะเราต้องออกไปทำงาน และไม่ค่อยอยู่บ้าน ทุกอย่างดูปกติดี เราคิดว่าอีกสักเดือนนกน่าจะบินได้แล้ว เราจะไปหาฝูงนกพันธุ์นี้ที่ไหนนะให้ ไอ้เจ้านี่ไปรวมฝูงด้วยได้ แต่ความฝันของเราก็ต้องหยุดลง


เนื่องจากเราฝากพ่อดู วันนั้นเราลงจากห้องมาตอนเที่ยง แต่พ่อเราลืมให้อาหารเพราะต้องดูแลหลาน และน้องนกไม่ส่งเสียงเรียกเหมือนเคย เราจึงรีบเอานกมาดูเอง นกมีอาการผิดปกติคือกินน้อยมากๆ และดูเพลีย พอสักบ่าย 3 ก็ยังกินน้อย ที่สำคัญไม่ส่งเสียงร้องเลย และมีอาการถ่ายเป็นสีดำๆ ประมาณ 2 ครั้ง เราก็ลองหาข้อมูลดูว่าเป็นอะไร บางคนบอกว่าเป็นลำไส้อักเสบ บางคนบอกว่าท้องเสีย เรารอดูอาการเห็นน้องนกถ่ายเป็นสีปกติแล้วก็วางใจ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เรามาย้อนคิดกี่ที่ก็โกรธตัวเอง


พอ 6 โมงเย็นนกเริ่มมีอาการแย่มาก ไม่มีแรงยืน ขาเกร็ง เรากับแฟนขับรถพาไปหาหมอทันที กะจะไปหาตรงที่เคยพาหมาไปหา แต่มันดันเป็นเวลารถติดมากๆ ระหว่างทางเห็นคลินิกสัตว์ที่หนึ่งจึงโทรไปถามว่ารักษานกได้ไหม เค้าบอกให้เข้าไปดูไม่ถนัดแต่เบื้องต้นพอได้ ตอนนั้นอาการนกร่อแร่มาก มีวูบหนึ่งคิดว่าน้องนกไปแล้ว ตัวแข็ง นอนตะแคง คือเราร้องไห้ถอดใจแล้วว่าไม่รอดแน่ๆ พอเข้าไปที่คลินิกที่ขับผ่าน คุณหมอตรวจแล้วบอกว่านกผอมมาก จึงให้น้ำเกลือทางผิวหนัง และป้อนกลูโคสให้นกมีแรง พร้อมกับเอาหลอดไฟสีส้ม มากกให้ความอบอุ่น น้องนกดูดีขึ้นค่ะ ยืนได้ ตาแป๋ว คุณหมอที่คลินิกแห่งหนึ่ง บอกว่าท่านก็เคยเก็บลูกนกมาเลี้ยง จนโตก็ไปปล่อยที่สวนหลวง เราก็หวังในใจว่าเราจะสามารถพาเจ้านกตัวนี้รอดไปถึงวันนั้นได้

คุณหมอใจดีมากให้การช่วยเหลือเบื้องต้น ให้น้ำเกลือ ป้อนกลูโคส กกไฟ จนน้องนกดูดีขึ้นจากที่พะงาบๆ คุณหมอแนะนำวิธีการดูแลที่ถูกต้องและเราก็เอากลับมาดูอาการต่อ แต่ก็บอกตรงๆว่าให้เผื่อใจไว้ เพราะลูกนกเป็นสัตว์เล็กและบอบบางมาก แม้มีสิ่งผิดปกติเพียงนิดเดียว อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อลูกนก และถ้าลูกนกที่เคยล้มแล้วทีนึงก็มักจะมีอาการดีขึ้นช่วงนึงก่อนที่ลูกนกจะเสีย เราเอากลับมาบ้านพยายามดูแลอย่างดี ลูกนกเหมือนอาการจะดีอยู่ช่วงนึง กลืนอาหารเอง ประคองตัวได้ กระพือปีกได้ เรามีความหวังว่าน้องจะกลับมาแข็งแรง เราสัญญาว่าจะใส่ใจน้องมากกว่านี้ จะดูแลน้องอย่างดี และหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์


แต่แล้วน้องก็ค่อยๆอ่อนแรงลง และไม่สามารถพยุงตัวได้อีกต่อไป เราเฝ้าดูจนตี 5 น้องนกก็จากไปอย่างสงบ เรารอไม่กล้าไปนอนเพราะเรารู้ว่าน้องกำลังจะไปแล้ว เราไม่อยากให้น้องไปอย่างเดียวดาย ในตอนนั้นเราทำได้แค่นี้จริงๆ นั่งร้องไห้ รับผลจากความผิดพลาดของตัวเอง ผิดที่ประมาทไม่พาน้องไปหาหมอตั้งแต่ตอนกลางวัน และไม่ปรึกษาผู้รู้เพื่อเลี้ยงดูอย่างถูกต้องตั้งแต่แรก ผิดที่เชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไปว่ามันเป็นเรื่องง่ายๆ เราทำได้อยู่แล้ว เป็นความผิดพลาดโง่ๆ ที่ต้องแลกกับ 1 ชีวิต


เราหวังว่ากระทู้ของเราจะเตือนสติให้บางท่านไม่มาผิดพลาดซ้ำรอยแบบเรา ไม่ใช่แค่เรื่องการเลี้ยงลูกนก แต่ในทุกๆเรื่องเราต้องใส่ใจ ไม่ประมาท และควรทำเต็มที่ให้ไม่ต้องมานั่งเสียใจที่หลัง เพราะเมื่อเราอยากแก้ตัว มันอาจจะไม่มีโอกาศเหลืออีกแล้ว

 

สาวเผยบทเรียนราคาแพง หลังเก็บลูกนกตกจากรังมาเลี้ยง


เราขอแชร์ข้อมูลการเลี้ยงนกที่ถูกต้อง (ตามที่คุณหมอให้มานะคะ)

1. อาหาร - ลูกนกต้องการโปรตีนมาก ควรให้กินอาหารแมวแช่น้ำ อาหารลูกนก หนอนนก หรือธัญพืช ห้ามอาหารสุนัข ซีรีแล็คเพราะมีแต่แป้งและไขมัน

2. เวลาอาหาร - กินทุก 2-3 ชั่วโมง เวลา 6 โมงเช้า-ประมาณ 2 ทุ่ม เป็นเวลาตามธรรมชาติ ถ้าดึกๆ นกยัง Active หรือหิวก็ป้อนได้

3. การป้อน - ใส่สลิงเล็กป้อน หรือพยายามฝึกให้ลูกนกกินเองจิกเองจากช้อน

4. น้ำ – ลูกนกส่วนมากจะได้นำ้จากอาการอยู่แล้ว ไม้ต้องป้อนก็ได้ แต่หากจะป้อน ควรให้นกจิบน้ำเอง ไม่บังคับให้กินเพราะอาจสำลักเข้าทางเดินหายใจได้

5. สถานที่ - เลี้ยงในห้องอุณภูมิปกติ อากาศถ่ายเท และ ต้องกกไฟ โดยเอาหลอกไฟส้ม กำลัง 40 วัตต์มาส่องให้ความอบอุ่น เพราะลูกนกยังไม่มีขนถ้าเจออุณภูมิต่ำร่างกายจะใช้พลังงานเยอะกว่าปกติมาก

6. ใส่ใจ - อันนี้เพิ่มเองค่ะ เราควรเลี้ยงและสังเกตุความผิดปกติต่างๆ ให้ดี การถ่ายปกติไหม เหลวไปไหม ปกติอึนกต้องสีเขียวและขาวปนกัน นกผอมไปไหม กินเยอะไหม"
 

ขอบคุณ : pantip.com

 

แจกโค้ดส่งฟรีลาซาด้า