เพจดังสวนทันควัน หลังตำรวจไซเบอร์แจปมบัญชีธนาคารในไทยโดนแฮก

จากที่ก่อนหน้านี้ เพจลงทุนแมน ได้ประกาศเตือน "บัญชีธนาคารโดนแฮก" ซึ่งทำให้มีผู้เสียหายแล้วนับหมื่นราย ก่อนที่ทาง ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เเละสมาคมธนาคารไทย ได้ร่วมชี้แจงกรณีดังกล่าวว่าเบื้องต้นพบว่า ไม่ได้เกิดจากการรั่วไหลของข้อมูลจากธนาคาร แต่เป็นรายการที่เกิดจากการทำธุรกรรมชำระค่าสินค้าและบริการกับร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ และ ไม่ใช่แอปฯดูดเงินตามที่ปรากฏเป็นข่าว

กระทั่งต่อมา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ผบช.สอท. ได้ชี้แจงว่า เหตุการณ์ลักษณะดูดเงินจากบัญชีธนาคารหรือบัตร ในลักษณะนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว ซึ่งเริ่มต้นมาจากถูกมิจฉาชีพปลอมเป็นหน่วยงานต่างๆ ส่ง SMSไปหลอกถามข้อมูลบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต โดยอ้างเหตุผลต่างๆ นานาที่ดูน่าเชื่อถือ ก่อนจะหลอกข้อมูล กระทั่งทำให้มิจฉาชีพสามารถนำข้อมูลไปหักเงินจากบัญชีได้ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่ธนาคารจะถูกแฮก

 

ทันทีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงกลาโหม ได้รับทราบหลังจากประชาชนร้องเรียนว่าถูกหักเงินจากบัญชีธนาคาร บัญชีบัตรเครดิต หรือบัญชีบัตรเดบิต อย่างผิดปกติเป็นจำนวนมาก จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ด้าน เฟซบุ๊ก Drama-addict ได้ตั้งคำถามสั้นๆ ว่า "รอบนี้ขนาดความเสียหายมันใหญ่กว่าปกตินะ ซึ่งต่างจากที่ผ่านมาที่จะเกิดเป็นรายบุคคลมากกว่า" แน่นอนว่าจากข้อสงสัยข้างต้นทำให้ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างต่อเนื่อง บ้างก็ส่งข้อมูลตัวอย่าง SMS ที่ควรระวัง อย่างหลงเชื่อเข้าไปกดคลิกเป็นอันขาด 

 

อาทิ เงินเดือน 1,000 บาท โอนเข้าบัญชีเรียบร้อย (พร้อมแนบลิ้งก์) หรือ ส่งลิงก์ปริศนามาพร้อม รหัสเชิญให้เข้าไปกด เป็นต้น อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ของกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จึงอยากเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อให้ข้อมูลบัตรกับใครง่ายๆ หรือจะคิดง่ายๆ คือ ยิ่งสถานการณ์แบบนี้สิ่งที่จะได้มาง่ายๆ และฟรีๆ ไม่มีอยู่จริง ซึ่งมันอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายหรืออะไรสักอย่างที่มันร้ายแรงในภายหลังก็เป็นได้