เดือด สรยุทธ โพสต์ฟาด เตชะ ทับทอง หลังถูกแซะ ชี้เป็นนักเซลฟี่ในตำนาน

กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันทีหลังกรรมกรข่าวชื่อดัง  สรยุทธ สุทัศนะจินดา แคปโพสต์ของจิตอาสาคนดัง เตชะ ทับทอง  มาลงเพจของตัวเอง พร้อมแคปชั่นสั้น ๆ ว่า "นักเซลฟี่ในตำนาน" ซึ่งก็มีคนเข้ามาคอมเมนต์และแชร์ข้อความดังกล่าวกันไปเป็นจำนวนมาก

 

 

หตุจากก่อนหน้านี้ เตชะ ทับทอง  เองก็ได้แชร์เพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ที่สรุปข้อมูลเรื่องข้อสอบเด็ก ป.1 เรื่อง ข้อใดคือสาเหตุที่ทำให้ชาติไทยเจริญรุ่งเรืองมาถึงปัจจุบัน ซึ่งเฉลยเป็น "มีบรรพบุรุษไทยที่เสียสละ" พร้อมข้อความว่า " โชคดีที่ไม่มีชอยส์ให้เลือกว่า เพราะมีนักเล่าข่าวเก่งระดับจักรวาล" งานนี้เลยการเป็นเรื่องฟาดกันไปมาขึ้นทันที

 

 

ด้าน เตชะ ทับทอง  ก็ดูท่าว่าจะไม่ยอมแคปโพสต์ของ สรยุทธ มาลงในเฟซบุ๊ก พร้อมข้อความโต้กลับแบบชุดใหญ่ว่า... "พี่ยังใช้ Fakenew นี้ มาทำร้ายจิตใจผมอยู่อีกเหรอครับ ?

เดี๋ยวนี้เค้าเรียกกันว่า bully แล้วนะครับ … เป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรเอาอย่าง และที่สำคัญคือไม่ควรปฏิบัติด้วยนะครับ อายุมิใช่น้อย หน้าที่การงานก็มิควรทำเช่นกัน  แต่ผมไม่ตามถามไปถึงจรรยาบรรณหรอกนะครับ  รู้กันดี… คิดใหม่ทำใหม่นะครับพี่ ส่วนตัวผมเองในเคสนี้คงไม่ลดตัวลงไปจิกพี่ด้วยคำ bully นะครับ ยังพอมีจิตสำนึกสาธารณะอยู่บ้าง … ผมเข้าใจพี่ดี

ผมเป็น Producer รายการไทยแลนด์ ทูเดย์ รายการสดก่อนรายการพี่ตั้งแต่จะเริ่มมี "ไร่ส้ม" สัปดาห์ละ 5 วันที่สถานี รู้ เห็น และเข้าใจความเป็นไปเสมอมาครับ … ผมเข้าใจพี่ดีพอ

ป.ล. สำหรับผมไอ้คำว่า "นักเซลฟี่ในตำนาน" มันเป็นคำเหยียดในอดีตที่คนเลว ๆ บางกลุ่มในอดีตตั้งใจแค่จะสร้างคำมา bully ผม จากงานที่ผมลงพื้นที่ทำเพื่อเด็ก เพื่อสังคม … ทั้งที่คนอื่น ๆ เค้าก็ทำกันในเรื่องเซลฟี่ แต่ไม่มีคนโดนด่า ทีเพียงผมนี่ละที่ถูกจับผิดเสมอในการลงพื้นที่แต่ละครั้ง … แต่ผมก็ไม่ถือวาอะไรนะ ทั้งพี่น้องนักข่าว ทีมงานหลายคนที่เจอในพื้นที่แต่ละครั้งเค้าก็รู้ดีว่าผมลงไปเพื่ออะไร …

 

นี่ขนาดผมใช้เงินตัวเองในการลงพื้นที่ช่วยคนยังถูก bully ด้วยเพราะต่างแนวคิดทางการเมือง และหมั่นไส้การทำงานของผมขนาดนี้ มันเป็นความรู้สึกที่แย่นะครับ … แต่ผมก็เฉย ๆ คนเรามันร้อยพ่อพันแม่ สันดานจึงก่อให้คนมีสำนึกที่ต่างกัน … ข้อกล่าวหาหลายเรื่องที่ถูกสร้าง fakenew มา ผมก็พิสูจน์ต้วเองทักครั้ง แม้กับทาง บก.ปอท. จน จนท. สบายใจ ผมเองก็สบายใจในความโปร่งใส … แต่ก็แปลกที่ทุกวันนี้เรื่อง fakenews เหล่านี้ยังไปหนักหัวใครหลายคนอยู่ โดยที่ไม่ดู ไม่ทบทวนพฤติกรรมตัวเองเลย"