- 02 ธ.ค. 2564
กรมอนามัย เตือน ประชาชนที่รับมือกับลมหนาว ไม่ควรดื่มเหล้า หรือผิงไฟในเต้นท์ เพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย อาจจะทำให้เสียชีวิตได้
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ประชาชนบางกลุ่มยังมีความเข้าใจผิด หรือมีความเชื่อสืบต่อกันมาว่า การดื่มเหล้าจะสามารถช่วยคลายหนาวได้ ซึ่งในทางการแพทย์นั้นจัดว่าเป็นเรื่องที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เนื่องจากฤทธิ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้มีความรู้สึกร้อนวูบวาบหรือร่างกายอบอุ่นขึ้น แต่ความจริงแล้วการขยายตัวของหลอดเลือดฝอยเป็นช่องทางให้ความร้อนถูกระบายออกจากร่างกาย
ยิ่งดื่มเหล้ามากขึ้น ความร้อนก็จะถูกระบายออกจากร่างกายมากขึ้นด้วย ส่งผลให้อุณหภูมิภายในร่างกายจะลดลงต่ำกว่าปกติ และเมื่อร่างกายสัมผัสอากาสเย็นเป็นเวลานานขณะนอนหลับ อาจเป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิตได้
นอกจากนี้ อีกวิธีหนึ่งที่ประชาชนมักใช้เพิ่มความอบอุ่นแก่ร่างกายคือ การผิงไฟ ซึ่งในการก่อไฟแต่ละครั้งนั้น จะปล่อยควันไฟออกมา และเมื่อสูดดมเข้าสู่ร่างกาย จะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว
ดังนั้น จึงควรก่อไฟในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ขณะผิงไฟควรนั่งหรือยืนอยู่เหนือทิศทางลม และกลุ่มเสี่ยงควรหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้บริเวณที่มีการก่อไฟ รวมทั้งควรหลีกเลี่ยงการนำเตาถ่านหรือตะเกียงน้ำมันก๊าดเข้าไปจุดผิงไฟในเต็นท์ เนื่องจากจะมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซพิษที่เกิดจากการเผาไหม้ ไม่มีกลิ่น
เมื่อร่างกายสูดดมก๊าซ 2 ชนิดนี้เข้าไปจะทำให้เซลล์ของอวัยวะต่าง ๆ ขาดออกซิเจนไปเลี้ยง โดยเฉพาะสมองทำให้เกิดอาการง่วง หลับโดยไม่รู้ตัว และเสียชีวิตได้ ทั้งยังเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้หรือถูกไฟคลอกจนเสียชีวิตด้วย
“ทั้งนี้ แนวทางการป้องกันตนเองจากลมหนาวมีหลากหลายวิธี ได้แก่ สวมเสื้อกันหนาวหรือห่มผ้าหนา ๆ แต่หากไม่มีให้สวมเสื้อผ้าหลาย ๆ ชั้นแทนได้ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ วันละ 7 – 9 ชั่วโมงต่อคืน กินอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำสะอาดให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หรือดื่มน้ำสมุนไพรรสร้อน เช่น น้ำขิง เลือกกินอาหารที่มีส่วนผสมของสมุนไพร รสชาติเผ็ดร้อน อาทิ พริก ขิง ข่า กะเพรา เพื่อเพิ่มอุณหภูมิความร้อนให้กับร่างกายช่วยให้คลายหนาวได้ ” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว