- 13 ธ.ค. 2564
ครอบครัวจีนเช่าบ้านมา 60 ปี ไม่ยอมย้ายไปไหน พยายามครอบครองบ้านนี้ไว้เอง กระทั่งเจ้าของบ้านเสียชีวิต ก็ไม่ยอมคืนบ้านหลังนี้ให้
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวสุดแปลก เมื่อสื่อต่างประเทศรายงานว่า ที่ปักกิ่ง ประเทศจีนมีครอบครัวหนึ่งเช่าบ้านมา 60 ปี ไม่ยอมย้ายไปไหน แถมยังเอารายชื่อทั้งครอบครัวย้ายเข้าทะเบียนบ้านนี้ทั้งหมด ครอบครองบ้านนี้ไว้เอง กระทั่งเจ้าของบ้านเสียชีวิตก็ไม่ยอมคืนบ้านหลังนี้ให้
ตามรายงานท้องถิ่นเปิดเผยว่า ผู้เช่ารายนี้ไม่ยอมย้ายออก จนหลานของเจ้าของบ้านต้องฟ้องร้องขึ้นศาลพร้อมขอให้รื้อถอนบ้านหลังนี้ใหม่ ทว่าผู้เช่ากลับขอค่าชดเชยที่จะรื้อถอนบ้านนี้ให้เขาด้วย เมื่อตกลงกันไม่ได้ ผู้เช่าจึงโทรแจ้งตำรวจพร้อมแจ้งข้อความบุกรุกบ้านส่วนตัว
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เจ้าของบ้านหลังนี้ได้เสียชีวิตลง หลานสาวของเจ้าของบ้านจึงออกหน้าจัดการเรื่องนี้แทน เข้ามาเจรจาขอให้ผู้เช่าย้ายออก แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไรพวกเขาก็ไม่ยอมย้ายออก จนต้องถึงขั้นฟ้องร้องกันเลยทีเดียว ในตอนแรกหลานสาวเจ้าของบ้านยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อขอให้รื้อถอนบ้านหลังนี้ ศาลพิจารณาอนุญาตให้รื้อถอนได้ แต่ทว่าผู้เช่ากลับไม่ยอมให้รื้อถอน โดยบอกว่ายอมจ่ายค่าเช่าบ้านให้ แต่จะไม่ยอมให้รื้อบ้านหลังนี้เด็ดขาด
ในปี 1996 หลานสาวได้ส่งเรื่องถึงศาลเป็นครั้งแรก และศาลก็อนุมัติให้รื้อถอนได้ แต่ทว่าคุณยายหนึ่งในผู้เช่าขอร้องอยากอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ช่วงสุดท้ายของบั้นปลายของชีวิต เจ้าของบ้านก็ใจอ่อนและยอมให้คุณยายอยู่ต่อจนกระทั่งคุณยายท่านนี้ได้จากไป ในเวลาไล่เลี่ยกันลูกชายของคุณยายก็ได้จากไปด้วย
ทำให้ทายาทรุ่นที่ 3 ก็คือรุ่นหลานๆคิดว่าตนเองมีสิทธิที่จะอาศัยอยู่บ้านหลังนี้ต่อไป หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ยอมย้ายออกเด็ดขาด ยืนกรานจะอาศัยบ้านหลังนี้ต่อไป ทำให้หลานสาวของเจ้าของบ้านต้องถึงขั้นต้องฟ้องร้องต่อศาล เมื่อนำหมายศาลมาเคาะประตูบ้าน พวกเขายังโทรเรียกตำรวจแจ้งข้อหาบุกรุกในพื้นที่ส่วนบุคคล
ด้านหลานชายผู้เช่าบอกว่าตนเองเป็นหัวหน้าครัวเรือนในทะเบียนบ้าน ดังนั้นตนเองจึงเป็นเจ้าบ้านหลังนี้ แต่ทว่าศาลและพนักงานชั้นศาลได้เดินทางเข้ามาตรวจสอบทรัพย์สินภายในบ้าน ขนทรัพย์สินของผู้เช่าออก จากนั้นก็เปลี่ยนตัวล็อคกุญแจประตูใหม่ ใช้วิธีบังคับไล่ผู้เช่ารายนี้ออกไป
หลังจากที่หลานสาวเจ้าของบ้านเมื่อได้รับกุญแจดอกใหม่ก็ถึงกับน้ำตาไหลพราก เพราะเจ้าของบ้านหรืออาของเธอไม่เคยได้อยู่อาศัยบ้านของตนเองก็ต้องจากไปแล้ว
เธอรู้สึกน่าเสียดายแทนเขาจริงๆ เพราะเรื่องบ้านหลังนี้ยืดเยื้อมานานหลายปีแล้ว จนคุณอาซึ่งเป็นเจ้าของบ้านจากไปก่อนที่จะได้เข้ามาอยู่อาศัยเอง