- 11 ม.ค. 2565
ทำเอาหัวอกคนเป็นแม่ใจสลาย เมื่อลูกน้อยเกิดอาการช็อกคารถ หมอ-พยาบาลทำงานล่าช้า กว่าจะมาช่วยก็สายเกินไปแล้ว
ผู้ใช้เฟซบุ๊กคุณ Sunantha Triyawong ได้ออกมาเล่าเรื่องราวที่เป็นเหมือนฝันร้ายของคนเป็นพ่อเป็นแม่ เมื่อเธอได้สูญเสียลูกสาวสุดที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ หลังจากที่ลูกล้มป่วย แต่ได้รับการรักษาที่ช้าเกินไป แม้เธอจะพาลูกไปส่งถึงหน้าห้องฉุกเฉินแล้วก็ตาม
ทั้งนี้ คุณสุนันทา เผยว่า เมื่อวันที่ 5 มกราคม น้องณิชา ลูกของเธออาเจียนกลางดึกประมาณ 8 ครั้ง ทำให้ในตอนเช้าของวันที่ 6 เธอได้พาลูกไปโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง คุณหมอสั่งให้แอดมิต 1 คืน และแจ้งว่าน้องเป็นลำไส้อักเสบ เมื่อเจาะเลือดไปตรวจก็ไม่พบความผิดปกติใด ๆ น้องเริ่มเล่นและร่าเริง คุณหมอจึงให้ออกจากโรงพยาบาลในวันที่ 7 มกราคม
ผ่านไปเพียงแค่ 1 วัน ในวันที่ 8 มกราคม น้องเริ่มมีไข้ต่ำ ๆ เธอจึงคอยเช็ดตัวและดูแลลูก จากนั้นก็พาลูกกลับไปยังโรงพยาบาลอีกครั้ง แต่ไม่ได้รับการวินิจฉัยที่ชัดเจน และได้รับยาพาราเซตามอลกลับมา เธอพยายามขอยาฆ่าเชื้อและกลับบ้าน คุณหมอบอกว่า อาการของน้องจะหายไปเองใน 7 วัน
วันที่ 9 มกราคม พบว่าลูกของเธอไม่มีไข้ ตัวไม่ร้อนแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่าน้องซึม และนอนตลอด จากนั้นก็พบว่าน้องหายใจเร็ว ยืนเองไม่ไหว เธอจึงรีบพาน้องไปส่งโรงพยาบาลอีกครั้ง ซึ่งระหว่างทางไปส่งโรงพยาบาลนั้น พบว่า ลูกของเธอเกิดอาการช็อกระหว่างทาง
เมื่อไปถึงโรงพยาบาล คุณยายที่มาด้วยก็รีบอุ้มน้องเข้าห้องฉุกเฉิน แต่กลับพบว่าไม่ได้รับการช่วยเหลือใด ๆ ทั้งที่น้องช็อกไปแล้วและหน้าซีดมาก เธอพยายามไปขอร้องให้พยาบาลมาช่วยดูลูกให้หน่อย แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือ พยาบาลเล่นโทรศัพท์และกินขนม และได้รับคำตอบกลับมาว่าจะให้ช่วยอย่างไร
เธอต้องรอไปกว่า 30 นาที กว่าที่พยาบาลและหมอจะมาดู และเมื่อหมอมาดูก็เริ่มเสียบเข็มและเจาะเลือดน้องทันที ทว่าอาการของน้องแย่ลงเรื่อย ๆ ทั้งหอบและออกซิเจนต่ำ เธออยู่ข้าง ๆ และกระซิบบอกว่าลูกต้องหาย ลูกต้องอยู่กับแม่ แม่อยู่นี่ จากนั้น คุณหมอเลยขอใส่เครื่องช่วยหายใจและจะพาน้องส่งเข้าไปรักษาในตัวจังหวัดยโสธร คุณหมอพาน้องเข้าไปในห้อง และเธอก็เข้าไปไม่ได้ และเมื่อเข้าไปในห้อง เธอก็ได้ยินเสียงร้องของลูก 3 ครั้ง เหมือนเสียงร้องของความทรมาน จากนั้นก็เงียบไป
ด้านคุณหมอได้เดินออกมาและบอกว่า ตอนนี้หัวใจของน้องหยุดเต้น และหมอต้องปั๊มหัวใจน้องขึ้นมา เธอรู้สึกหน้าชา หูอื้อ และหัวใจแตกสลายไปหมด จนสุดท้ายก็ช่วยน้องไม่ไหว น้องได้จากไปในที่สุด
สิ่งสุดท้ายที่เธอเห็นกับลูกคือ หมอเรียกญาติเข้าไป และค่อย ๆ ถอดสายต่อหน้า เธอได้แต่กอดร่างไร้วิญญาณของลูกเอาไว้ ทุกอย่างเหมือนมันมืดไปหมด ซึ่งหมอบอกว่า น้องมีอาการปอดติดเชื้อ หัวใจล้มเหลว
"แม่ขอโทษนะณิชา หนูคงเจ็บ คงทรมาน แม่ขอโทษ..
ขอโทษที่ดูแลไม่ได้ พาหนูเติบโตไปกว่านี้ไม่ได้
ถ้ายังมีวาสนาต่อกัน กลับมาเกิดเป็นลูกแม่อีกนะณิชา"
อย่างไรก็ตาม หลายคนได้เข้ามาแชร์โพสต์ข้องเธอและร่วมแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียครั้งสำคัญในครั้งนี้ และบางคนก็บอกว่าให้เธอทำการฟ้องร้องโรงพยาบาล เพื่อให้มีการตรวจสอบและแก้ไข ปรับปรุงการให้บริการให้ดีกว่านี้ เพื่อที่ครั้งหน้า จะได้ไม่ต้องสูญเสียใครอีกต่อไป