กรมทะเล เปิดผลชันสูตร ซากโลมา-เต่า ในพื้นที่น้ำมันดิบรั่วทะเลระยอง

ผลชันสูตรสัตว์ทะเลออกแล้ว หลังน้ำมันรั่วลามทั้งทะเล สืบเนื่องจากกรณีที่ ท่อน้ำมันดิบใต้ทะเลรั่วไหล หลังตรวจบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึก หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) ของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองระยอง ท่อน้ำมันดิบ 4 แสนลิตรรั่วจากท่อใต้น้ำกลางทะเลระยอง คาดความเสียหายกระจายกว้าง นั้น 

โดนน้ำมันรั่วในทะเลได้กระจายเป็นวงกว้าง อีกทั้งยังลุกลามไปหลายพื้นที่ ทั้งหาดแม่รำพึง จ.ระยอง อีกทั้งทิศทางหัวของคราบน้ำมัน กระแสน้ำพัดมุ่งเข้าอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด เคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ซึ่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ผนึกกำลังกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รับมือเพิ่มสารเคมีฉีดสลายกลางทะเล และติดตั้งทุ่นร่องน้ำป้องกันพื้นที่เกาะเสม็ดเต็มที่ เนื่องจากเป็นแหล่งปะการัง และหญ้าทะเลจำนวนมาก

ก่อนหน้านี้ที่มีรายงานว่า มีสัตว์ทะเล ตายจำนวนมาก หลังเกิดเหตุน้ำมันรั่วในทะเล ล่าสุด นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ระบุถึงกรณีพบซากเต่าและโลมา ในพื้นที่การเกิดน้ำมันดิบรั่วไหลจากท่อกลางทะเลบริเวณมาบตาพุด จ.ระยอง ว่า จากการตรวจสอบและผ่าชันสูตรซากแล้ว มีผลดังนี้ 

1. ซากโลมาที่พบเป็นโลมาปากขวดอินโดแปซิฟิก (indo-pacific bottlenose dolphin: Tursiops aduncus) ขนาดความยาวซากที่เหลืออยู่ 2.35 เมตร สภาพซากเน่ามาก (advanced decomposition หรือที่ระดับ 4/5)

กรมทะเล เปิดเผยถึง ผลชันสูตร ซากโลมา-เต่า พื้นที่น้ำมันดิบรั่วทะเลระยอง โดยระบุเพิ่มเติมว่า จากสภาพซาก โลมาตัวนี้เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7-10วัน จากการตรวจสอบ กล้ามเนื้อและผิวหนังหลุดร่อน อวัยวะหลายส่วนได้หลุดหายไป เนื่องจากผนังช่องท้องได้เปิดออกจากการเน่าตามธรรมชาติ ทางเดินอาหารพบ gastric content เล็กน้อย ตลอดทางเดินหายใจและทางเดินอาหารไม่พบสิ่งแปลกปลอม และคราบน้ำมัน อย่างไรก็ตามเนื่องจากสภาพเน่ามาก ไม่สามารถหาสาเหตุการตายที่ชัดเจนได้

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

2. ซากเต่าทะเลที่พบเป็นเต่ากระ (Hawksbill turtle: Eretmochelys imbricata) ขนาดกระดองกว้าง 74 เซนติเมตร กว้าง 83 เซนติเมตร เพศเมีย อยู่ในช่วงวัยเจริญพันธุ์ สภาพซากเน่ามาก (advanced decomposition หรือที่ระดับ 4/5) เป็นเต่าที่เกิดและโตในธรรมชาติไม่พบหมายเลขไมโครชิพและแถบเหล็กระบุตัวตน

จากการตรวจสอบ จากสภาพซากเต่าได้เสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 5-7 วัน เต่าทะเลมีไขมันสะสมตามช่องท้องค่อนข้างน้อย บ่งบอกการป่วยที่เรื้อรัง ตลอดทางเดินอาหารพบอาหารตามธรรมชาติเล็กน้อย ได้แก่ ปะการังอ่อน เปลือกหอย ไฮดรอยเป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ยังพบ ขยะทะเลจำนวนหนึ่ง เช่น ถุงพลาสติก เศษเชือก เศษกระสอบ หนังยางรัดแกง แต่ไม่พบการอักเสบของทางเดินอาหาร ทั้งนี้ไม่พบการปนเปื้อนหรือคราบน้ำมัน ทั้งภายในและภายนอกของเต่าทะเล อย่างไรก็ตามเนื่องจากซากเน่ามากทำให้ไม่สามารถสรุปหาสาเหตุการตายได้

 

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล