นพ.ยง ย้อนบทความทางวิชาการ ฝีดาษลิง เมื่อ20ปีที่เเล้ว โรคนี้ไม่ใช่โรคใหม่

"หมอยง"หยิบยกบทความทางวิชาการเมื่อเกือบ20ปีที่เเล้ว เกี่ยวกับฝีดาษลิง ฝีดาษลิงในคน ระบาดมานานเเล้ว แพร่สู่มุนษย์เป็นไปได้ยาก

กรณีโรคฝีดาษลิงในคน ที่กำลังเป็นที่จับตาเรื่องการระบาดล่าสุด โดย“หมอยง” ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์เกี่ยวกับงานวิชาการเมื่อเกือบ20ปีที่เเล้ว ยืนยันว่าฝีดาษลิงการแพร่ระบาดมีมานานเเล้ว


ฝีดาษลิง ในคน
ยง ภู่วรวรรณ  25 พฤษภาคม 2565
โรคนี้ไม่ใช่โรคใหม่ เคยระบาดในแอฟริกาแล้วเข้าสู่อเมริกา ระบาดในหลายรัฐในปีพ.ศ 2546  มีผู้ป่วยมากกว่า 30 ราย

นพ.ยง ย้อนบทความทางวิชาการ ฝีดาษลิง เมื่อ20ปีที่เเล้ว โรคนี้ไม่ใช่โรคใหม่
ในปีนั้น ผมได้เขียนบทความทางวิชาการ ลงในวารสารคลินิก อย่างละเอียด และข้อเสนอแนะ 

นพ.ยง ย้อนบทความทางวิชาการ ฝีดาษลิง เมื่อ20ปีที่เเล้ว โรคนี้ไม่ใช่โรคใหม่
บทความนี้ก็ยังสามารถใช้ได้ในปัจจุบัน ได้ไปค้นและหยิบขึ้นมา ดังที่ได้เผยแพร่นี้
เป็นเวลาเกือบถึง 20 ปีแล้ว ที่เขียนเรื่องนี้ขึ้นมา และเมื่อมาอ่านดูเนื้อหาก็ยังสามารถใช้ได้ดี
การติดต่อของโรคนี้ ติดต่อได้ยากกว่าโควิด-19 ไข้ทรพิษ มาก โอกาสที่จะระบาดใหญ่แบบโควิด หรือไข้ทรพิษ จึงมีน้อยมาก
 

ฝีดาษวานร  ข้อควรรู้.... โรคนี้วินิจฉัยครั้งแรกพบในลิง จึงเรียกว่าฝีดาษลิง  (Monkeypox) ผู้ป่วยในมนุษย์ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดไม่ได้ติดจากลิง เคยมีหลักฐานการติดต่อจากสัตว์ตระกูลฟันแทะ จำพวกหนู กระรอก เช่นหนูแกมเบีย (Giant Gambian rat) ที่นำเข้าไปในอเมริกา และมีการติดต่อไปสู่หนูแพรี่ด็อก และคนติดมาอีกทีหนึ่ง

นพ.ยง ย้อนบทความทางวิชาการ ฝีดาษลิง เมื่อ20ปีที่เเล้ว โรคนี้ไม่ใช่โรคใหม่
การเรียกฝีดาษลิง จึงไม่ยุติธรรมสำหรับลิง เพราะคนเราจะรังเกียจลิง ลิงที่อยู่ตามวัด ในบ้านเรามีมาก จะขาดแคลนอาหาร เป็นที่เดือดร้อนของชาวลิงอย่างแน่นอน
โรคในตระกูลฝีดาษหรือไข้ทรพิษ สมัยก่อนมีฝีดาษวัว ที่ข้ามมายังมนุษย์ได้และนำมาใช้ทำวัคซีนป้องกันไข้ทรพิษทำให้โรคนี้หมดไป เพราะการติดฝีดาษวัว จะเป็นตุ่มหนองเฉพาะตรงที่สัมผัสเท่านั้น หรือเรียกว่าขึ้นเฉพาะที่ ส่วนฝีดาษนกหรือไก่ยังไม่มีหลักฐานการข้ามมายังมนุษย์ 

นพ.ยง ย้อนบทความทางวิชาการ ฝีดาษลิง เมื่อ20ปีที่เเล้ว โรคนี้ไม่ใช่โรคใหม่
ลักษณะตุ่มฝีดาษหรือไข้ทรพิษ หรือในตระกูลฝีดาษ ตุ่มหนองจะเริ่มจากรอยแดงแล้วเป็นน้ำใสและเปลี่ยนเป็นน้ำขุ่นข้น สีขาวเหลือง ตรงกลางจะมีรอยบุ๋ม ซึ่งต่างกับ โรคสุกใสที่เกิดจากไวรัสต่างกลุ่มกันจะเป็นน้ำใส 


ข้อแตกต่างที่ชัดเจนกับโรคสุกใส ที่สมัยผมเป็นนักเรียนต้องท่องได้ มี ตุ่มของฝีดาษ จะขึ้นพร้อมกันระยะเดียว เหมือนกัน เริ่มจากแดงเป็นตุ่มน้ำและตกสะเก็ดพร้อมๆกัน แต่ของสุกใสจะมีหลายระยะเช่นบางตุ่มเป็นแค่ตุ่มแดงบางตุ่มเป็นน้ำใสแล้วการกักตัวผู้ป่วยจึงต้องกักตัวให้แผลทุกแผลตกสะเก็ดหมด จึงจะพ้นระยะติดต่อ สำหรับผู้สัมผัสโรคจะต้องกลับตัวดูอาการ 21 วันตามระยะพักตัวที่มากที่สุด 


บริเวณที่ขึ้นตุ่มของสุกใสจะขึ้นบริเวณลำตัวมากกว่า ส่วนของฝีดาษจะขึ้นมากที่แขนขาแล้วค่อยไปลำตัว

นพ.ยง ย้อนบทความทางวิชาการ ฝีดาษลิง เมื่อ20ปีที่เเล้ว โรคนี้ไม่ใช่โรคใหม่
ลักษณะของตุ่มฝีดาษจะบุ๋มตรงกลางที่เรียกว่า umbilicated vesicle ส่วนของสุกใสจะเป็นตุ่มน้ำใสหลายระยะเป็นที่น่าสังเกตว่า ฝีดาษลิงที่กำลังระบาดและพบอยู่ขณะนี้ พบในเพศชายเกือบทั้งหมด   ฝีดาษวัวป้องกันฝีดาษหรือไข้ทรพิษ โดยหลักการแล้วก็น่าจะข้ามมาป้องกันฝีดาษลิงได้ แต่ขณะนี้ก็มีการพัฒนาวัคซีนฝีดาษเด็กโดยตรง

cr.
Yong Poovorawan