- 04 มิ.ย. 2565
ส.ส.เต้ มงคลกิตติ์ กลับลำ ไม่เปิดเผย "ภาพศพแตงโมแล้ว" พร้อมบอกเหตุผลชัดเจน ซึ่งเรื่องนี้พิจารณาแล้วโดยทีมกฎหมาย
จากกรณีเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2565 ส.ส.เต้ มงคลกิตติ์ เผยว่า "ได้ปรึกษาคุณแม่แล้ว คุณแม่อาจจะเปิดเผยสภาพศพของแตงโม ในอาทิตย์หน้าด้วยตัวเอง และจะไม่ฟ้องร้องใคร จะบอกว่านี่นะ สภาพศพของลูกสาวที่จมน้ำตาย มันเป็นแบบนี้หรือ"
ก่อนที่ล่าสุดจะเคลื่อนไหวผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "แจ้ง ทีมกฏหมาย พิจารณาแล้วว่า ไม่เปิดเผยภาพแตงโม หลังเสียชีวิต เกรงว่าจะผิด ป.อาญา ม.366/4 เรียนมาเพื่อทราบ "
ซึ่งตรงกับที่ทนายเดชาเพิ่งออกมาเตือนในความผิดเดียวกัน หากมีการนำรูปภาพศพของแตงโมมาเปิดเผย แม้จะเป็นภาพบาดแผลก็ตาม โดยทนายเดชาเตือนถึงกรณีที่ นางภนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่ของ นางสาวภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม นิดา จะเปิดภาพบาดแผลที่ศพของแตงโม นิดา ในการแถลงข่าวว่า เป็นเรื่องที่ไม่สมควร เหมือนเป็นการทำร้ายผู้เสียชีวิตซ้ำสอง อาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา 366/4 ดูหมิ่นเหยียดหยามศพหรือไม่ และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 นำภาพอันไม่เหมาะสมเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เพราะในความเป็นจริงแล้ว คดีแตงโม นิดา ถือว่าจบแล้วในขั้นสอบสวน อยู่ระหว่างรอฟังคำสั่งฟ้องจากพนักงานอัยการ จึงมีความเป็นห่วงนางภนิดามากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ส.ส.เต้ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กก่อนหน้านี้ว่า ผมขอยืนยันกับพี่น้องประชาชน ว่า ผมและทีมงานทุกคนฯ จะสู้คดีเพื่อทวงความยุติธรรมเพื่อแตงโม(ผู้เสียชีวิตที่พูดไม่ได้) สุดทางทางกระบวนการยุติธรรม ซึ่งคดีนี้จะเป็นตัวอย่างของภาคประชาสังคมที่ช่วยกันทุกฝ่าย สุดท้ายจะส่งผลถึง การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมจนสามารถแก้กฏหมาย ใน พรบ.สืบสวนคดีอาญา พ.ศ....และ พรบ.สำนักงานทนายรัฐ พ.ศ.....ก็จะทำให้ คำว่า "คนจนติกคุก คนรวยมีเส้นสายรอดคุก" ไม่มีอีกต่อไป ยุติธรรมเท่าเทียม ถ้าทุกคนช่วยกัน
แม้การต่อสู้ครั้งนี้ ผมอาจไปขัดใจกลุ่มผลประโยชน์ และถูกเล่นงานกลับใน กรณี เราพลาดเองก็ตาม ผมอาจต้อง ถูกถอดถอน จากการเป็น ส.ส.-ตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี-ถูกจำคุก ก็ตาม ผมก็ไม่เสียใจเพราะสามารถทำให้บ้านเมืองเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เพื่อความผาสุข ร่มเย็น ของประชาชนชาวไทย ถือว่าคุ้มกับสิ่งที่ต้องแลก
คำว่า ผู้แทนราษฏร มันคือ ความภูมิใจในหัวใจผม ถ้าประชาชนให้เป็นแล้ว ยังปกป้องประชาชนผู้สุจริตไม่ได้ ก็ไม่สมควรเป็น "ตำแหน่งอยู่ได้ไม่นาน แต่ ตำนานอยู่ได้ตลอดไป"
ขอบคุณ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์