- 10 มิ.ย. 2565
งานเข้า "ทนายกฤษณะ" เข้าข่ายผิดทิ้งคดี ทนายตั้มชี้โทษถึงขั้นถอดใบอนุญาตเพราะทำผิดมรรยาททนายความ หลังผู้เสียหายเข้าปรึกษา
วันที่ 10 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสังเวียน คำภีรบุตร อายุ 78 ปี เข้าปรึกษากับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ กรณีว่าจ้าง นายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย อดีตทนายความของนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม นิดา ให้ว่าความคดีที่ถูกเจ้าหนี้ฟ้องแพ่งคดีกู้ยืมแล้วไม่จ่ายคืน ทั้งที่จ่ายเงินคืนครบแล้ว ซึ่งทนายกฤษณะไม่ยื่นคำเบิกความต่อศาลเพื่อนำหลักฐานไปสู้คดี เป็นเหตุให้ต้องแพ้คดี โดยศาลพิพากษาตัดสินให้ชำระหนี้ค่าจำนองที่ดินอีกกว่า 1.7 ล้านบาท
งานเข้า "ทนายกฤษณะ" เข้าข่ายผิดทิ้งคดี ทนายตั้มชี้โทษถึงขั้นถอดใบอนุญาต
ทนายษิทรา กล่าวว่า ผู้เสียหายไปจ้างทนายความคนดังกล่าว หลังนำที่ดินไปจำนองแล้วเป็นหนี้ แม้จะชดใช้เงินเกินไปมาก และมีหนังสือสัญญายอมรับ แต่กลับถูกเจ้าหนี้ฟ้องร้องเป็นคดีแพ่ง เนื่องจากทนายดังกล่าวไม่ทำหนังสือคำเบิกความจนท้ายสุดแพ้คดี และต้องชำระหนี้ซ้ำสอง
นายสังเวียน เปิดเผยว่า ตนเองถูกฟ้องร้องคดีแพ่งหลังนำโฉนดที่ดิน 2 ฉบับ ไปจำนองเป็นเงินมา 1 ล้าน 4 แสนบาท ซึ่งเจ้าหนี้เขียนสัญญา 2 ฉบับ เป็นเงินฉบับละ 1 ล้านบาท เป็น 2 ล้านบาท เมื่อตนถามว่าทำไมไม่ให้ฉบับละ 7 แสนบาท ผู้ให้กู้อ้างว่าเราเป็นพวกเดียวกัน จากนั้นตนก็ผ่อนชำระหนี้งวดแรก 35,000 บาท มากบ้างน้อยบ้าง โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2539 จนถึงปี 2542 จนใช้หนี้รวมเป็นเงินกว่า 2 ล้านบาท รวมระยะเวลา 4 ปี ไม่เคยกู้เพิ่ม ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าเจ้าหนี้จะมาฟ้องร้องตนเองทำไมทั้งที่จ่ายหนี้สินทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยไปจนหมดแล้ว
จนกระทั่งได้ไปพบกับทนายกฤษณะโดยบังเอิญที่ศาลจังหวัดสระบุรี โดยนายกฤษณะ ได้เข้ามาสอบถามและแสดงความจำนงค์จะว่าความคดีนี้ให้ โดยคิดเงินค่าว่าความ 35,000 บาท แล้วต้องจ่ายค่าทำเนียมศาลอีก 20,000 บาท
อย่างไรก็ตาม การว่าความคดีดังกล่าว นายกฤษณะ ไม่เคยให้ตนเองเข้าไปในห้องพิจารณาคดีเลย เพราะไม่มีความรู้เรื่องกฎหมาย กระทั่งจนวันที่ศาลนัดฟังคำพิพากษา ให้ตนแพ้คดีและต้องชำระเงินให้กับโจทก์ และมาพบตอนหลังว่ามากฤษณะไม่ได้ยื่นคำเบิกความต่อศาลในการสู้คดี
นอกจากนี้ นายกฤษณะยังมาขอยืมเงินไปอีกหลายครั้ง ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดี ซึ่งยังเหลือเงินที่ยังไม่มาคืนอีก 20,000 บาท จึงทำให้ตนรู้สึกน้อยใจว่าจ่ายทั้งค่าทนายความ และให้หยิบยืมเงิน แต่ทำไมถึงไม่ว่าความให้ตนเองอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม จะไม่ไปร้องการผิดมรรยาททนายความคนดังกล่าว ที่สภาทนายความ เพราะรู้สึกสงสาร แต่จะอยากขอสู้คดีต่อ ถ้ายังมีหนทาง
ทนายษิทรา เปิดเผยว่า หากทนายได้รับมอบให้ทำคดีแล้วไม่ทำ นับเป็นการทิ้งคดี ถือว่าผิดมรรยาททนายความ ซึ่งสามารถร้องให้สภาทนายความตรวจสอบเพื่อลงโทษได้ หนักสุดถึงขั้นถอดใบอนุญาตทนายความ
สำหรับแนวทางการช่วยเหลือคดีนี้ ยอมรับว่าหากเป็นการสู้คดีทางแพ่ง ที่ศาลตัดสินไปดังกล่าวแล้วนั้น ทำได้นั้นยากมาก แต่คดีอาญาสามารถทำได้ โดยจะต้องดำเนินคดีกับเจ้าหน้าหนี้ กรณีเบิกความเท็จ เพราะนายสังเวียนใช้หนี้ไปหมดแล้ว