- 12 ก.ค. 2565
เจ้าของอู่รถชื่อดัง พิสูจน์แล้ว สายรัดประหยัดน้ำมัน เทียบกันชัดๆ ประหยัดจริงมั้ย พร้อมท้าคนรีวิวว่าได้ผล เดิมพัน 1 ล้าน ทดสอบกันตัวต่อตัว
เจ้าของอู่รถชื่อดัง พิสูจน์แล้ว สายรัดประหยัดน้ำมัน ท้าคนรีวิวว่าได้ผล จากที่ก่อนหน้านี้ โลกออนไลน์วิพากษ์วิจารย์อย่างหนัก เนื่องด้วยมีเฟซบุ๊กหลายๆ เพจได้ออกมาพูดถึง นวัตกรรมใหม่ที่ระบุว่า ช่วยลดการใช้น้ำมันได้ ทำให้ประหยัดค่าน้ำมันไปได้เยอะ คือ "สายพลังงานประหยัดน้ำมัน" ซึ่งพบว่าผู้จำหน่ายเป็นไฮโซหญิงรายหนึ่ง เธอได้โพสต์ลงทั้งเพจของสินค้าและเฟซบุ๊กส่วนตัว มีการนำไปมอบให้กับดาราอาวุโส เพื่อให้ร่วมโปรโมทด้วย
พร้อมกันนี้ยังรวมไปถึงอู่รถยนต์และบริษัทต่างๆ เพื่อถ่ายภาพไปโปรโมทสินค้าเช่นกัน ซึ่ง สายรัดประหยัดน้ำมัน ที่ว่ามีการระบุคุณสมบัติของสินค้าไว้ว่า "ไม่ต้องกลัวราคาน้ำมันแพงนะคะ แค่มีสายรัดประหยัดพลังงานที่สายส่งน้ำมันไปหัวฉีด สายประหยัดพลังงานจะแยกโมเลกุลน้ำมันให้เล็กลง ทำให้การใช้น้ำมันลดลง 20 - 30%"
ขณะเดียวกัน ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ หรือ อาจารย์เจษฎ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ถึงเรื่องดังกล่าว เตือนระวังอย่าหลงเชื่อโฆษณาหลอกขาย อุปกรณ์ประหยัดน้ำมัน
- หลายเพจดังจับโป๊ะ ไฮโซดังออกนวัตกรรมลวงโลก พบดารารุ่นเก่าร่วมโปรโมท
ล่าสุด ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ได้มีการกล่าวถึงเรื่องนี้ระบุว่า ขอบพระคุณ น้าแจ่ม AZC มากครับ ที่ช่วยทดสอบสายรัดประหยัดน้ำมันลวงโลกนี้นะครับ จริง ๆ เขาก็แค่หลอกขายนั่นแหละครับ เป็นแก๊งมาจากมาเลเซีย หลอกขายมาตั้งแต่เหรียญควอนตัม น้ำพลังพาย จนกระทั่งมาถึงสายรัดลวงโลกนี้ ซึ่งพวกนี้ก็แถอ้างไปเรื่อยล่ะครับ ไม่ได้ทดสอบจริงหรอกว่าใช้ได้
โดย น้าแจ่ม AZC ที่ว่า คือ เจ้าของอู่รถชื่อดัง ได้มีการเปิดเผยผลการทดสอบการใช้งานสายรัดประหยัดน้ำมันดังกล่าว ยืนยันว่า ไม่ได้ผลจริงตามที่กล่าวอ้าง หลังจากมีการทดสอบ 4 รอบกับรถยนต์ โดยใส่สายรัดครั้งแรก 10.8 กิโลเมตรต่อลิตร ถอดสายรอบแรก 11 กิโลเมตรต่อลิตร ใส่สายครั้งที่สอง 12 กิโลเมตรต่อลิตร ถอดสายครั้งที่สอง 13.3 กิโลเมตรต่อลิตร
น้าแจ่ม AZC เจ้าของอู่รถชื่อดัง ระบุว่า การทดสอบครั้งนี้คือการทดสอบส่วนตัว ใช้ความเร็ว 100 - 130 โดยประมาณ ไม่มีซัด ไปเรื่อยๆ เร่งความเร็วตั้งแต่ 80-91-134-130 กิโลเมตร/ชั่วโมง น้าแจ่ม วิ่งไปทั้งหมดกว่า 400 กิโลเมตร ก่อนทิ้งท้ายว่า ตนเองเห็นใจไฮโซสาวที่นำสายรัดดังกล่าวมาขาย เพราะเชื่อว่าน่าจะถูกหลอกมาอีกที ก่อนท้าคนที่มาบอกว่าใช้แล้วได้ผลว่าประหยัดน้ำมัน 40 เปอร์เซ็นต์ ยินดีวางเงินเดิมพัน 1 ล้านบาท แล้วมาทดสอบกันตัวๆ
อีกทั้ง น้าแจ่มบอกว่า เรื่องนี้อย่ามองว่าเป็นเรื่องเล็ก สายรัดประหยัดน้ำมันอันละ 3,800 บาท มีคนซื้อ 100 คนก็ได้เงิน 3.8 แสนบาท บางคนไม่มีความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ แล้วหลงไปซื้อ 1,000 คน เขาก็ได้เงิน 3.8 ล้านบาท ถ้ามีคนไปซื้อ 10,000 คน ก็ได้เงินไปแล้ว 38 ล้านบาท ดังนั้น ตนไม่ได้ดูถูกหรือไม่ได้ว่า ตนแค่อยากลองว่า เพิ่มแรงม้า 15-25% ประหยัดน้ำมัน 20-40% ตนอยากรู้มากและจะทดสอบให้ดู
"สำหรับผม มันเหมือนการดูถูกอาชีพของผมครับ ผมจูนรถ ผมคิดค้นแทบตาย จูนรถหามรุ่งหามค่ำ ทำงานด้วยความยากลำบาก ลูกค้าอยากประหยัดน้ำมัน จะให้แรงด้วย ..เนี่ย ทำแบบเหน็ดเหนื่อย กว่าจะได้แรงม้าแต่ละตัวสองตัว เหนื่อยกันชิxหาย มาใส่สายพัน ๆ บอกประหยัดขึ้น 40% แรงขึ้น 15-25% ถ้าได้จริง ๆ ผมจะซื้อมาขาย ผมจะเป็นตัวแทนจำหน่าย ผมจะกราบตี...คุณด้วย 10 ครั้ง"
ทั้งนี้เมื่อมีการทดสอบจริงๆ พบว่า กราฟระหว่างก่อนใส่สายรัดประหยัดน้ำมัน และหลังจากใส่สายรัดประหยัดน้ำมัน กราฟเดินไปในเส้นเดียวกัน ไม่ได้แตกต่างอย่างมีนัย รวมไปถึงค่า Max Power ที่ตอนใส่ค่าจะอยู่ที่ 165.31 ตอนถอดค่าจะอยู่ที่ 166.35 ซึ่งถือว่าไม่เพิ่มไม่ลด ที่แตกต่างกันมีแค่เรื่องของแรงบิดที่ต่างกันนิดเดียวตอนเริ่ม ก่อนที่กราฟจะไหลมาบรรจบกัน
นอกจากนี้ น้าแจ่มสรุปง่ายๆ ว่า ไม่ว่าจะใส่สายหรือไม่ใส่ การประหยัดน้ำมันก็ไม่ได้ต่างกัน ถอดเข้าถอดออกก็เท่าเดิม ใส่เข้าไปก็ไม่ได้ส่งผลเสีย และไม่ได้เพิ่มแรงม้า
อย่างไรก็ตาม น้าแจ่ม AZC เจ้าของอู่ชื่อดัง ได้มีการเผยคลิประหว่างการทดสอบสายรัดประหยัดน้ำมัน โดยตอนหนึ่งมีการพูดคุยกับไฮโซสาว ซึ่งเธอยืนยันว่า ตนเองอยู่กับวงการนี้มา 30 ปี ไม่ใช่ไม่มีคนรู้จัก ให้มั่นใจได้เลยว่าเราไม่ได้หลอกประชาชน ที่เอาของที่ใช้งานไม่ได้มาบอกว่าใช้งานได้ ซึ่งยินดีให้ทดสอบเพราะเป็นนวัตกรรมใหม่ อย่าคนที่ยังไม่เคยใช้แล้วบอกว่าไม่จริง
คลิปจาก AZC Addzest Carcolor FP
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline