ทนายเดชา ฝากถึง อัจฉริยะ สู้ไปติดคุกแน่ ถ้าแพ้ก็ติดนาน รับสารภาพติดพอประมาณ

  
   ความเคลื่อนไหวล่าสุด ทนายเดชา กิตติวิทยานันนท์ ออกมาเตือน นาย อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ โดยจากกรณี ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มีการเปิดเผยถึงการตรวจสอบคำให้การของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ม พบว่า คำให้การต่างๆ เลื่อนลอย ไม่มีพยานหลักฐานมายืนยัน

โดยทนายเดชา กิตติวิทยานันนท์ ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า นายอัจฉริยะจะมีหลักฐานจริงหรือไม่นั้นตนไม่ทราบและขอไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย แต่การที่กระทรวงยุติธรรมออกมาบอกว่าคำให้การต่างๆ เลื่อนลอย ตนก็อยากจะให้เข้าใจคำว่าเลื่อนลอยในภาษาของกฎหมายคือการที่มีแต่คำพูด หรือ ถ้าในทางโซเชียลก็คือมีแต่น้ำลาย ที่ไม่มีหลักฐานมาประกอบคำพูด จึงเรียกว่า

โดยการทำแบบนี้ก็เป็นการแจ้งความเท็จ เนื่องจากไม่มีมูล ซึ่งถ้าใครที่ได้รับความเสียหายอย่างคดีแตงโมที่คนบนเรือได้รับความเสียหายเขาก็อาจไปแจ้งความดำเนินคดีหลังจากที่มีการตรวจสอบแล้วว่าการไปกล่าวหาเขาไม่มีหลักฐาน ก็ต้องไปว่ากันในศาล เนื่องจากมีโทษหนักที่เป็นการแจ้งความเท็จกลั่นแกล้งผู้อื่นให้ได้รับโทษ ซึ่งอาจมีโทษจำคุกถึง 15 ปี

   ทนายเดชา กล่าวต่อว่า คดีนี้ประชาชนไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะจะได้ค้นหาความจริง คือถ้าสุดท้ายแล้วใครเป็นคนแจ้งความเท็จก็ต้องติดคุก และเชื่อว่าไม่น่าจะมีการไกล่เกลี่ย ส่วนคนที่ทะเลาะกันในคดีแตงโมนี้ เท่าที่ตนทราบจะมีฝ่ายหนึ่งที่ติดคุกและฝ่ายหนึ่งที่รอด แต่ไม่ทราบว่าจะเป็นฝ่ายไหนเพราะต้องรอศาลตัดสิน

 พร้อมยังได้ฝากถึงคนที่หลงโลกโซเชียลจนเกินไปหรือทำตามคำยุของแฟนคลับ ก็ขอให้ระมัดระวังในเรื่องนี้ด้วย ตนมองว่าถ้าสู้ไม่ไหวหรือมีพยานหลักฐานเท็จก็ขอให้ยอมแพ้จะดีกว่า เพราะถ้าสู้ไปติดคุกแน่ ถ้าแพ้ก็ติดนาน รับสารภาพติดคุกพอประมาณ ตามคำของนายชูวิทย์ ที่เคยกล่าวไว้ ซึ่งตนก็ขอให้ใครที่กำลังหลงอยู่ในโลกโซเชียลและคิดว่าตัวเองมีแฟนคลับจำนวนมากนั้น ก็ขอให้ฟังผู้มีประสบการณ์อย่างนายชูวิทย์ด้วย อย่าไปเชื่อแฟนคลับ กองเชียร์มาก เพราะถ้าติดคุกไปก็ไปคนเดียว กองเชียร์ไม่ได้ตามไปด้วย

   ทั้งนี้ ทนายเดชา ได้มีการฝากไปถึงนายอัจฉริยะด้วยว่า นายอัจฉริยะเขาเป็นนักรบ ตนก็เป็นเพื่อนกับเขามานาน ก็รู้นิสัยเขาดีว่าคงจะไม่ยอมและจะไปต่อในเรื่องของคดีแตงโม ซึ่งตนก็ขอให้เขาโชคดีและในวันข้างหน้าก็ขอให้เอาตัวรอดได้ แต่ขอให้จำไว้อย่างว่าถ้าวันหนึ่งไปสู้กันที่ศาลแล้วไม่มีหลักฐาน

   ก็เท่ากับว่าสิ่งที่ได้พูดออกมาทั้งหมดคือความเท็จ คิดไปเอง เชื่อไปเอง หรือ อย่างที่เขาบอกว่า เลื่อนลอย ซึ่งอย่างที่บอกว่ากรณีนี้ถือว่ามีโทษหนักที่เป็นการแจ้งความเท็จ กลั่นแกล้งผู้อื่นให้ได้รับโทษ ซึ่งอาจมีโทษจำคุกถึง 15 ปี

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติม thainewsonline