- 31 ส.ค. 2565
ทนายเดชา พา อดีตพนักงาน JSL รับเงินครบถ้วนกว่า 28 ล้าน เปิดเบื้องลึกยอมขายตึกจ่ายชดเชย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเผยข่าวดีอีกชั้น
ทนายเดชา พา อดีตพนง. JSL รับเงินกว่า 28 ล้าน เปิดเบื้องลึกยอมขายตึกจ่ายชดเชย ถือว่าเป็นการจบลงด้วยดีเรียบร้อย จากที่ก่อนหน้านี้ อดีตพนักงานเจเอสแอล รวมตัวร้องทุกข์ โดนเลิกจ้างฟ้าผ่า ได้เงินชดเชยเเค่16% กระทั่งต่อมา ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ แจ้งข่าวว่า JSLเตรียมจ่ายชดเชยพนักงาน โดยยอมขายตึกที่ทำการเพื่อนำเงิน 32 ล้านมาจ่ายชดเชยให้ ซึ่งงานนี้ทำเพื่อพี่น้องแรงงานและถือเป็นผลงานของกระทรวงแรงงานที่กดดันจนบริษัทเจเอสแอลยอมจ่ายเงินทุกบาททุกสตางค์ 30 กว่าล้านให้กับลูกจ้างครบถ้วน
ล่าสุด นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่พร้อมกับ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เจ้าของเพจทนายคลายทุกข์ เพื่อเป็นสักขีพยานการจ่ายเงินชดเชยให้กับอดีตพนักงาน เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด ภายหลังถูกเลิกจ้างกะทันหัน เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งสำหรับการจ่ายเงินวันนี้ (31 ส.ค.65) ไม่พบว่ามีตัวแทนนายจ้างเดินทางมา แต่เป็นการนำเช็คเงินสด ใส่ซองมาฝากไว้ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน พื้นที่ 4 ตั้งแต่เมื่อวานช่วงเย็น โดยฝากเรื่องไว้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อจ่ายเงินชดเชยให้กับพนักงานในวันนี้ในส่วนที่เหลือทั้งหมด ตามกฎหมายกำหนด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวอีกว่า ต้องขอขอบคุณนายจ้างที่ปฏิบัติตามกฎหมาย และเป็นตัวอย่างให้กับบริษัทอื่นๆ ที่กำลังประสบปัญหาเดียวกัน นายจ้างต้องนึกถึงวันที่พนักงานช่วยให้บริษัทเติบโตขึ้นมาได้ เป็นแขนเป็นขาให้กับบริษัท วันนี้เงินที่นายจ้างต้องจ่ายทั้งหมดกว่า 28 ล้านบาท ได้จ่ายให้พนักงานทุกคนครบถ้วนแล้ว ในส่วนของกระทรวงแรงงานเองก็ได้จ่ายเงินเยียวยา ให้เป็นจำนวนเงินเบื้องต้นกว่า 1.3 ล้านบาท ขณะที่กองทุนว่างงานสำนักงานประกันสังคม ก็มีการอนุมัติจ่ายเงินชดเชยการว่างงานอีกกว่า 3.8 ล้านบาท
ทั้งนี้จากปัญหาที่เกิดขึ้น ได้นำไปสู่แนวคิดการจัดตั้งกองทุนประกันความเสี่ยงการเลิกจ้าง โดยให้นายจ้างจ่ายเงินเข้ากองทุน 5% หากพบว่ามีการเลิกจ้างกะทันหัน จะสามารถนำเงินส่วนนี้ มาจ่ายชดเชยให้กับลูกจ้างได้ แต่หากนายจ้างจ่ายเงินชดเชยตามกฎหมายครบถ้วนให้พนักงาน ก็สามารถมารับเงินในกองทุนนี้คืนกลับไปได้
และข่าวดีอีกอย่างคือ ล่าสุดกรมการจัดหางาน ได้หาตำแหน่งงานว่างให้อดีตพนักงานเจเอสเอลได้ทำแล้วกว่า 10 คน ซึ่งบางคนก็ไปเรียนฝึกอาชีพที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ทั้งการฝึกทำกาแฟ บาริสต้า และเบเกอรี่
ขณะเดียวกัน ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ กล่าวว่า ตนทราบข้อมูลมาจากลูกจ้างอีกทีว่า บริษัทเจ เอส แอล นั้น ได้ขายตึกเพื่อนำเงินมาจ่ายชดเชยตามที่กฎหมายกำหนด และทราบมาว่าทางบริษัทเอง ก็เป็นหนี้อยู่หลายแห่ง แต่เลือกที่จะมาจ่ายเงินชดเชยให้กับพนักงานชุดนี้ก่อน ขณะที่ความรู้สึกของพนักงานหลายคนเปลี่ยนไป รู้สึกผ่อนคลาย และคลายความกังวล มากกว่าวันแรกที่รู้ว่าถูกเลิกจ้างกะทันหัน
"เงินชดเชยที่ได้ในวันนี้ จะนำไปต่อยอดในการหาอาชีพประจำใหม่ หรือบางคนอายุมากแล้ว ก็ดูอาชีพอิสระ และค้าขาย วันนี้ต้องขอบคุณนายจ้างที่ออกมาแสดงความรับผิดชอบ และทำตามกฎหมายกำหนด" ทนายเดชา ระบุทิ้งท้าย
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline