หนุ่มข้องใจ ออกค่างานแต่งคนเดียว เงินจากซองทั้งหมดตัวเองควรได้ใช่ไหม

"หนุ่ม" ข้องใจโพสต์ถามออกค่าใช้จ่ายงานแต่งคนเดียว เงินจากซองทั้งหมดตัวเองควรได้ใช่ไหม งานนี้ชาวเน็ตแห่ช่วยตอบ

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประเด็นใหญ่ของคู่รักที่กำลังจะแต่งงาน นั่นก็ "เงินใส่ซอง" บางคู่เก็บเงินที่ได้จากการใส่ซองไว้เป็นเงินส่วนรวมเพื่อสร้างชีวิตร่วมกันในอนาคต แต่ถ้าหากว่ามีใครคนใดคนหนึ่งต้องออกเงินค่าใช้จ่ายในการแต่งงานมากกว่า หรือออกเงินเพียงแค่ฝ่ายเดียวล่ะ เงินนี้ควรจะต้องตกเป็นของใคร อย่างเช่นกรณีของหนุ่มรายนี้ ที่มาตั้งกระทู้พันทิปถามความเห็นจากชาวเน็ต หลังจากที่เขาต้องเป็นคนออกค่าใช้จ่ายงานแต่งคนเดียว โดยระบุในหัวข้อว่า "ผมควรได้เงินจากซองงานแต่งทั้งหมดใช่ไหมครับ ในเมื่อผมออกค่าใช้จ่ายงานแต่งคนเดียว"

 

หนุ่มข้องใจ ออกค่างานแต่งคนเดียว เงินจากซองทั้งหมดตัวเองควรได้ใช่ไหม หนุ่มข้องใจ ออกค่างานแต่งคนเดียว เงินจากซองทั้งหมดตัวเองควรได้ใช่ไหม

 

โดยหนุ่มรายนี้เล่าว่า คุยเกริ่นกับแฟนเรื่องแต่งงาน (ยังไม่ได้คุยกับผู้ใหญ่) สรุปคือแฟนยินดีที่จะช่วยออกแค่ค่าชุดเจ้าสาว ส่วนค่าใช้จ่ายที่เหลือทั้งหมด แฟนบอกให้ตนออกคนเดียว เพราะมีเงินเดือนเยอะกว่า (ประมาณ 3-4 เท่า) เจ้าของกระทู้ข้องใจว่า ตนเองมีสิทธิ์เอาเงินจากซองงานแต่งทั้งหมดหลังจากหักค่าชุดเจ้าสาวหรือไม่ ถ้าได้ซองมาเกินค่าใช้จ่าย ก็เอาเข้ากองกลาง (แต่น่าจะยากที่จะได้เกินมา) แบบนี้แฟร์ไหม

หนุ่มเจ้าของกระทู้ ยังเล่าอีกว่า แฟนหาว่าตนไปดูถูกเขา เพราะตนไปถามเค้าว่า "ถ้าจะแต่งกัน เธอสะดวกช่วยออกเงินค่าอะไรบ้าง" ซึ่งเจ้าของกระทู้ อยากให้ชาวเน็ตช่วยแถลงไขให้หน่อยว่าตนไปดูถูกแฟนตรงไหน ตนถามก็เพื่อที่จะได้วางแผนการเงินถูก แค่นั้นจริงๆ


อย่างไรก็ตาม หนุ่มเจ้าของกระทู้ ยังแจงรายละเอียดของการแต่งงาน เพิ่มเติมว่าเรื่องทั้งหมดมันเกิดจาก scale ของงานแต่งที่แฟนอยากจัดและเงื่อนไขเวลา เขาอยากแต่งงานภายในสองปีนี้ แต่ตนเองมองว่าการจะหาเงินมาแต่งงานระดับนั้นได้ ตนต้องใช้เวลาอีก 3-4 ปีค่อยในการเก็บเงิน ซึ่งถ้าตนเก็บเงินได้ทัน ตนยินดีจะจ่ายเองทั้งหมด  แต่แฟนเขาาบอกขอแต่งภายในสองปี ตนเลยจำเป็นต้องให้เขาช่วยออกบ้าง ก็เลยไปถามแฟน แล้วก็เป็นอย่างที่เห็น


- ที่แฟนเร่ง เขาาบอกว่ากลัวอายุเขาเยอะ อีกสองปีข้างหน้าเขาจะอายุ 34 ไม่อยากแต่งตอนแก่ ตอนตนบอกว่าอีก 3-4 ปีได้ไหม เขาร้อง "โห" เลย


- ส่วนตัวเจ้าของกระทู้เองเป็นเดอะแบกของที่บ้าน อยู่ในช่วงสร้างเนื้อสร้างตัว ถ้าตนล้ม ก็ล้มทั้งบ้าน เลยทำให้ตนเองคิดมากเรื่องเงินมากเกินไป


- ส่วนเรื่องวิธีการสื่อสารการใช้คำพูด ก็อย่างที่หลายความเห็นต่อว่าแหละ ว่าไม่โอเค ไม่ดี ตนจะนำไปแก้ไขปรับปรุง


- ส่วนตัวแฟนไม่ได้แบกอะไร ไม่มีหนี้สิน ทางบ้านมีทรัพย์สมบัติทิ้งไว้ให้ถ้าตายจาก เขาอาจเลยไม่ได้โฟกัสเรื่องเงิน


- เคยคุยกับเรื่องอยู่ด้วยกัน  เช่นถ้าอยู่ด้วยกัน ค่าน้ำค่าไฟจะจัดการยังไง ตนเลยเสนอหารครึ่ง เขาก็อิดออด ขอจ่ายที่มันไม่เยอะ เช่น ค่าน้ำ เพราะว่าตนเงินเดือนเยอะกว่า (อีกแล้ว)

 

หนุ่มข้องใจ ออกค่างานแต่งคนเดียว เงินจากซองทั้งหมดตัวเองควรได้ใช่ไหม หนุ่มข้องใจ ออกค่างานแต่งคนเดียว เงินจากซองทั้งหมดตัวเองควรได้ใช่ไหม

หลังจากที่กระทู้ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก อาทิ เราว่าคุณแฟร์แล้ว แต่ฝ่ายหญิงนี่ยังไง , เหมือนมีแค่คำว่า "เธอ" กับ "ฉัน" ยังไม่มีคำว่า "เรา"  จะแต่งกันจริงๆเหรอคะ

 

หนุ่มข้องใจ ออกค่างานแต่งคนเดียว เงินจากซองทั้งหมดตัวเองควรได้ใช่ไหม หนุ่มข้องใจ ออกค่างานแต่งคนเดียว เงินจากซองทั้งหมดตัวเองควรได้ใช่ไหม


การตกลงกันก่อนถูกแล้ว ต้องคุยกันตรงๆว่าค่าใช้จ่ายจะยังไง ฉันจ่ายอันนี้นะ เธอจ่ายอันนี้นะ ฯลฯ แต่เห็นบอกว่าทะเลาะกันบ่อยเรื่องเงินๆทองๆ แฟนคุณรู้สึกไม่ดีสะสมเรื่องนี้อยู่แล้วหรือไม่ ที่ผ่านมาเคยมีปัญหาอะไรกันมาคนนอกคงไม่รู้รายละเอียด และพอมาครั้งนี้เมื่อแฟนต้องการให้คุณออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด (ยกเว้นชุดเจ้าสาว) และคุณตอบไปว่าจะขอหักค่าใช้จ่ายงานแต่งทั้งหมดจากซอง (เหลือจึงจะเข้ากองกลาง) เธอจึงมีความรู้สึกแนวๆ ได้เปรียบ เสียเปรียบ แบบนี้ไหม สมมุติว่ามันเป็นความสัมพันธ์แบบมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือทั้งสองต่างคบหาด้วยรู้สึกแนวๆ ได้เปรียบ เสียเปรียบ มันดูเป็นความสัมพันธ์ที่ตึงเครียด

 

หนุ่มข้องใจ ออกค่างานแต่งคนเดียว เงินจากซองทั้งหมดตัวเองควรได้ใช่ไหม หนุ่มข้องใจ ออกค่างานแต่งคนเดียว เงินจากซองทั้งหมดตัวเองควรได้ใช่ไหม

 

หนุ่มข้องใจ ออกค่างานแต่งคนเดียว เงินจากซองทั้งหมดตัวเองควรได้ใช่ไหม หนุ่มข้องใจ ออกค่างานแต่งคนเดียว เงินจากซองทั้งหมดตัวเองควรได้ใช่ไหม

ขอบคุณ เจ้าของกระทู้

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat