เอ๋ พิชชานันท์ นักวิ่งเทรลทีมชาติไทย เกิดภาวะไตวาย ส่ง รพ.ด่วน หลังวิ่ง 80 กม.

การแข่งขันรายการวิ่งเทรลภูเขาชิงแชมป์โลก "อเมซิง ไทยแลนด์ เวิลด์ เมาเทน แอนด์ เทรล รันนิ่ง แชมเปี้ยนชิพ" ที่ดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 5 พ.ย.65 วิ่งเทรลระยะยาว "Long Trail" 80 กม.หญิง เอ๋ พิชชานันท์ มหาโชติ นักวิ่งเทรลไทย ได้ลงแข่งขันฐานะตัวแทนทีมชาติไทย โดยใช้เวลาไป 12.07 ชั่วโมง ดีกว่าที่เคยทำได้ดีสุด 14 ชั่วโมง และตั้งเป้าไว้ 13 ชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม ในช่วง 10 กม.สุดท้าย เอ๋ พิชชานันท์ ต้องวิ่งด้วยความทรมาน และเมื่อเข้าเส้นชัยก็มี เอ๋ พิชชานันท์ ภาวะไตวาย ต้องเข้าโรงพยาบาลทันที ซึ่งเจ้าตัวได้โพสต์ภาพและข้อความลงในเฟซบุ๊กว่า

 

"เต็มที่แล้วในการเป็นตัวแทนทีมชาติไทย เอ๋ในนามคนไทยคนหนึ่ง อยากบอกว่า ทุกๆคนก็ต่างทำหน้าที่จนสุดความสามารถแล้วจริงๆ ดีใจที่ได้มีส่วนร่วมการแข่งแข่งระดับโลก ครั้งนี้เจอแต่ของจริงตั้งแต่เริ่ม ออกตัว เค้าใส่กันเต็ม ไม่มีใครคิดจะยอมแพ้แน่นอน เพราะมีสัญลักษณ์ ธงชาติของตัวเอง เป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องสู้

เอ๋เองรู้ตัวตั้งแต่แรกว่าสู้ไม่ได้หรอก แต่จะทำให้ดีเท่าที่ตัวเองทำได้มากๆที่สุด แล้วก่อนเริ่มออกสตาร์ท เอ๋บอกว่าจะทำเวลาไม่เกิน 13 ชม. ในระยะ 80k ความชันสะสม 4,400+ ไม่ง่ายเลย เอ๋เคยทำเวลาดีที่สุดคือ 14 ชม. ครั้งนี้เป้าหมายคือทำเวลาเก็บไว้เป็นสถิติ เพราะไม่รู้อีกนานแค่ไหนจะมีโอกาสได้กลับมายืนตรงนี้อีกไหม สุดท้ายเข้าเส้นมา12:07 ชม. ขอบคุณหัวใจตัวเอง ที่พยายามอดทนวิ่งทั้งๆที่10กิโลสุดท้ายวิ่งบนความทรมานอย่างหาที่สุดไม่ได้ เข้าเส้นชัยมาเอ๋มีภาวะไตวาย ต้องเข้าร.พ.ด่วนเอ๋เลยไม่ได้ไปรับน้องๆที่หน้าเส้นชัย น้องๆในทีมทุกคนสุดยอดมาก ยินดีด้วยกับทุกคนค่ะ

กราบขอบคุณสมาคมกรีฑาที่ให้โอกาส กราบขอบคุณ พี่จุ๋ง น้องเค้ก พี่มง และทีมงาน กราบขอบพระคุณ ทุกๆกำลังใจที่ส่งมาให้สุดท้าย ขอบคุณน้องยศ ที่ช่วยพาพี่ลาก 5 กิโลสุดท้าย จนเข้าเส้นชัย"

 

และล่าสุด เอ๋ พิชชานันท์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กอัพเดทอีกครั้ง โดยระบุว่า "ขอบคุณทุกความห่วงใยนะคะ เอ๋ออกมาจากร.พ.แล้วค่ะ ตั้งแต่เมื่อคืนตอนตี1 กลับมาพักแล้ว ตอนนี้ความรู้สึกเหมือนไม่ได้เป็นอะไร  แต่คุณหมอบอกอยากให้นอนร.พ.ต่อ เอ๋ขอมารักษาตัวที่บ้าน โดยรับยามาทาน โดยความสมัครใจ และจะดูแลตัวเองให้ดี ยอมรับทุกการแข่งของเอ๋จะเจอเรื่องที่ไม่คาดฝันตลอด น้อยบ้างมากบ้าง ถ้าถึงต้องเข้าร.พ. ร่างกายคงเตือนเอ๋แล้วจริงๆ เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ในสนามแข่ง อยากจะบอกว่า การเตรียมรับมืออยู่ในความไม่ประมาทดีที่สุด ครั้งนี้ยอมรับอากาศร้อนมากๆ เอ๋ก็กินน้ำตามปกติ และก็พยายามเติมเกลือแร่ แต่ขณะที่การขับออกทางเหงื่อมีมากกว่าการเติมเข้าไป อย่างไรก็เติมไม่ทัน เหตุการณ์ครั้งนี้ ก็เป็นอีกบทเรียนของเอ๋ จะนำไปแก้ไขในครั้งต่อไปค่ะ"

 

 

ขอบคุณ FB : คนเดียว ก็วิ่งได้

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Thainewsonline