เอาแล้วมวยถูกคู่ ชูวิทย์ ท้าชก สันธนะ บนเวที กร้าว1นาทีไม่ล้ม ยอมก้มกราบเท้า

เดือดต่อเนื่อง"ชูวิทย์"เอาจริง ประกาศท้ "สันธนะ"ขึ้นชกมวยบนสังเวียน กร้าวถ้า1นาทีไม่ล้ม ตนยอมก้มกราบเท้า

    กรณีเมื่อวันที่ 9 พ.ย.65 ที่ผ่านมา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้หอบหลักฐานธุรกิจสีเทากลุ่มนายทุนจีนมอบให้ "บิ๊กโจ๊ก"พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.  ที่ สน.ทองหล่อ พร้อมกับมีนาทีเดือด"ชูวิทย์"หวิดวางมวยกับ "สันธนะ"ด่ากราดนายสันขวานร้อนตัวเอี่ยวธุรกิจ ล่าสุดนายชูวิทย์ ได้เปิดใจเผยถึงเหตุการณ์เผชิญหน้ากับ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ จนหวิดวางมวย

เอาแล้วมวยถูกคู่ ชูวิทย์ ท้าชก สันธนะ บนเวที กร้าว1นาทีไม่ล้ม ยอมก้มกราบเท้า

โดย "เนชั่นออนไลน์" มีรายงานว่า  นายชูวิทย์ เผยถึง สาเหตุที่ทำให้ตนเองเข้าเผชิญหน้ากับนายสันธนะ ด้วยลักษณะรุนแรง เช่นนั้น เนื่องจากทนไม่ไหวที่นายสันธนะ ไม่ให้เกียรติ ขึ้นไปเคาะประตูเสียงดังระหว่างที่ตนเองกำลังยื่นหนังสือ และพยานหลักฐานเกี่ยวกับกลุ่มนายทุนจีน สีเทา ให้กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) และตะโกนเรียกท้าทายเสียงดัง

เอาแล้วมวยถูกคู่ ชูวิทย์ ท้าชก สันธนะ บนเวที กร้าว1นาทีไม่ล้ม ยอมก้มกราบเท้า


ดังนั้น เมื่อตนเองยื่นหนังสือเสร็จ ตนก็แค่แสดงตัวว่าอยู่ตรงนี้ ตามที่นายสันธนะ อยากเจอเท่านั้น เพราะตนเองคนจริง เป็นนักเลง เมื่อไม่ให้เกียรติกันทั้งที่มีตำรวจผู้ชั้นใหญ่อยู่ ก็ไม่จำเป็นต้องให้เกียรติตอบ อีกทั้งก็ยอมรับในการกระทำ หากสังคมจะมองว่าเป็นการใช้ความรุนแรง ก็ต้องขอบอกว่า บางครั้งความรุนแรงก็เหมาะต้องใช้กับคนบางคน

เอาแล้วมวยถูกคู่ ชูวิทย์ ท้าชก สันธนะ บนเวที กร้าว1นาทีไม่ล้ม ยอมก้มกราบเท้า

ส่วนที่มีแรงเชียร์ อยากให้มีโปรโมเตอร์จัดมวยไฟต์พิเศษชูวิทย์ กับ สันธนะ  อยากบอกว่า ถ้านายสันธนะ เป็นคนจริงเหมือนกันก็นัดมาเจอกันเลยดีกว่า สะดวก วัน เวลาใด ให้แจ้งมา ตนพร้อม เพราะแค่ผลักนายสันธนะ เบา ๆ นายสันธนะ ก็ล้มแล้ว

เอาแล้วมวยถูกคู่ ชูวิทย์ ท้าชก สันธนะ บนเวที กร้าว1นาทีไม่ล้ม ยอมก้มกราบเท้า

   หากนายสันธนะ สามารถยืนอยู่ได้เกิน 1 นาที ตนเองจะกราบเท้าให้ดู และหากตนเองตายไปเป็นผี ก็จะไปเป็นผีเกาะหลังนายสันธนะ พร้อมเตือนอย่าพลาดแล้วกัน นอกจากนี้ นายชูวิทย์ จะให้รางวัลเป็นเงิน 100,000 บาท หากประชาชนคนใดที่มีหลักฐาน หรือ คลิปวิดีโอ การกระทำความผิดของนายสันธนะขอให้ส่งมาที่ตนเองได้เลย

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ thainews