- 15 พ.ย. 2565
แม่เหยื่อแก๊งโจ๋เด็กช่าง ลั่น หลังได้ยินคำสารภาพ "เติ้ล" หนึ่งในแก๊งอุ้มซ้อม คิดไว้แล้วว่าคำตอบต้องออกมาเป็นแบบนี้ ทั้งนี้ตำรวจเผยว่าผู้ต้องหาทุกคนปฏิเสธ
จากกรณีแก๊งเด็กช่างคู่อริอุ้มไปทำร้ายร่างกาย ในบ้านย่านซอยรามคำแหง 63 ล่าสุดวันนี้ (15 พ.ย. 65) เมื่อช่วง 10:40 นายเติ้ล อายุ 17 ปี หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหา ที่ถูกระบุว่าเป็นนักแสดงซีรีส์ ได้เดินทางมายัง สน.หัวหมากพร้อมคุณย่าเพื่อพบตามนัดหมายของพนักงานสอบสวนในการสอบปากคำร่วมกับสหวิชาชีพ ซึ่งก่อนหน้านี้นายเติ้ลได้เดินทางมามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก เมื่อคืนนี้ ตามหมายเรียกที่พนักงานสอบสวนออกไปในครั้งแรก
โดยนายเติ้ลเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนยอมรับว่าทำจริง แต่สิ่งที่ผู้เสียหายกล่าวอ้างนั้นเกินความจริง โดยเฉพาะเรื่องแชทที่นายโอ๊ตอ้างว่าตนส่งไปเพื่อล่อลวงผู้เสียหายนั้นไม่เป็นความจริง
ต่อมา ย่า อายุ 67 ปี ผู้ปกครองของนายเติ้ลได้ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมารู้จักเพื่อนของหลานชายเพียงไม่กี่คนเท่านั้น และเป็นเพื่อนระแวกบ้านเท่านั้น มักจะไปนั่งเล่นที่บ้านเป็นประจำ ส่วนเพื่อนที่โรงเรียนหรือ กลุ่มอื่น ไม่รู้จัก ขอยืนยันว่า เติ้ลไม่มีปืนอย่างแน่นอน อุปนิสัยเวลาอยู่ที่บ้านเติ้ลจะพูด "ครับ" ตลอด
และเวลาโทรศัพท์คุยกับรุ่นพี่ ก็จะชอบพูด "ครับพี่ๆ" เสมอ จนบางครั้งต้องสอนหลานว่า เวลามีเรื่องเดือดร้อนรุ่นพี่ไม่สามารถช่วยเหลือเราได้ ที่ผ่านมาย่าต้องคอยเลี้ยงหลานกว่า 7 คน เนื่องจากพ่อแม่ทุกคนทิ้งไว้ให้เลี้ยง จึงสอนเติ้ลเสมอว่าต้องตั้งใจเรียน แต่ในเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นแล้วก็ต้องยอมรับผิด อะไรผิดก็ว่าไปตามผิด หลานก็ทำใจไว้แล้ว ซึ่งทางย่าเองก็ไม่มีเงินประกันตัวแต่อย่างใด และในส่วนของการให้ปากคำ หลานชายได้เล่าให้ตำรวจฟังหมดแล้ว หลังจากนี้ก็เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป
กระทั่งเวลา 13.38 น. ตำรวจคุมตัวนายเติ้ล ไปส่งฟ้องศาลเยาวชนและครอบกลาง โดยมีสีหน้าเรียบเฉย เมื่อสอบถามถึงการทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย นายเติ้ลตอบสั้นๆว่า "ไม่ได้ทำ" ก่อนจะเดินขึ้นรถตำรวจออกไป
หลังจากนั้นแม่ของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ยินคำพูดของ นายเติ้ล ที่ออกมาปฏิเสธในการกระทำดังกล่าว ก็รู้อยู่แล้วว่าคำตอบจะออกมาเป็นอย่างไร เขาอยากจะพูดอะไรก็เป็นสิทธิ์ของตัวเขา หลังจากที่คุยกับทางพนักงานสอบสวนที่สอบปากคำผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมดทราบว่าให้การปฏิเสธทุกคน ซึ่งตอนนี้ตนก็ได้ปรึกษากับทนายในเรื่องการแจ้งข้อหาเพิ่ม จากที่ผู้ต้องหาได้มีการนำคลิปวีดีโอดังกล่าวออกมาเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียล ซึ่งเข้าข่ายความผิดพ.ร.บ.คอมฯ
ส่วนเรื่องการทำงานของทางตำรวจก็ยังมีความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่อยู่ ถึงแม้จะยังตรวจค้นไม่พบอาวุธปืนก็ตาม ตนอยากให้ตำรวจเข้าตรวจค้นอีกครั้ง ในเมื่อรูปภาพที่ทางผู้ต้องหายังนำภาพถืออาวุธปืนออกมาโพสต์ข่มขู่ผ่านทางเฟสบุ๊กเมื่อไม่นานมานี้
ทั้งนี้อยากจะฝากไปถึงผู้ที่ร่วมกระทำความผิดที่เป็นผู้ใหญ่ในครั้งนี้ ว่าให้ออกมาต่อสู้คดีถ้าหากไม่ได้ทำผิดจริง
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline