- 22 พ.ย. 2565
ชายชราชาวอังกฤษ ถูกแมงป่องต่อยที่ไทย ป่วยโรคประจำตัวคือ "เบาหวาน" ไม่มีเงินกลับบ้าน สถานทูตไม่ช่วย ลูกชายตกใจหลังเห็นอาการพ่อ แฉยับโรงพยาบาลที่รักษา
ชาวอังกฤษ ถูกแมงป่องต่อยในไทย ไม่มีเงินกลับบ้าน ลูกชายตกใจแฉยับ รพ.ที่รักษา อีกหนึ่งเคสที่กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ เมื่อมีรายงานว่า ชายสูงวัยชาวอังกฤษเคราะห์ร้ายถูกแมงป่องต่อยที่ประเทศไทย แต่ปรากฏว่า อาการถูกแมงป่องต่อยครั้งนี้กลับกลายว่ามันลุกลามกลายเป็นโรคแบคทีเรียกินเนื้อ ซึ่งชายคนนี้มีโรคประจำตัวคือ "เบาหวาน" ทำให้ขาของเขาบวมแดงก่อนติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อ และแพทย์แนะนำว่าต้องถูกตัดขา และสถานทูตก็ไม่ให้ความช่วยเหลือ
ตามรายงานระบุว่า ชายคนดังกล่าวคือ อแลน สตีเฟนสัน (Alan Stephenson) ชาวอังกฤษวัย 73 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกแมงป่องต่อย ในขณะเดินทางมาพักผ่อนที่ประเทศไทย แต่โชคร้ายที่แผลได้ลุกลามกลายเป็น "โรคแบคทีเรียกินเนื้อ" หรือ "โรคเนื้อเน่า" (flesh-eating disease) บริเวณเท้าจนถึงเข่า ซึ่งแพทย์บอกว่า "จะต้องตัดขาทิ้ง" และครอบครัวยังจะต้องหาเงิน 18,000 ปอนด์ หรือ ราวๆ 769,000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายในการนำเขากลับบ้าน ไปพร้อมกับทีมผู้เชี่ยวชาญการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
ด้าน คริสเตียน สตีเฟนสัน วัย 44 ปี ลูกชายชายชราคนดังกล่าว ต้องเดินทางจากเมืองฮัลล์ไปเยี่ยมพ่อที่โรงพยาบาลในประเทศไทย ก่อนจะพบว่าพ่อของเขาจะต้องถูกตัดขา ทั้งนี้ เขาอ้างว่าตอนไปอยู่ที่ข้างเตียงของพ่อ เขาถึงกับสิ้นหวังและกลัวว่าจะพ่อจะมีอันตรายถึงชีวิต
อีกทั้งเขาบอกด้วยว่าเห็นแมลงสาบวิ่งอยู่บนเพดานห้องผู้ป่วยและแมวจรจัดก็กินอาหารของผู้ป่วย ส่วนพ่อของเขาอยู่ในอาการเจ็บปวดทุกข์ทรมานอย่างที่สุด ทั้งยังสับสน จำไม่ได้ว่า วีซ่ากับเอกสารส่วนตัวอยู่ที่ไหน เขาเปรียบเทียบสิ่งที่เห็นว่าเหมือนหลุดออกมาจากหนังเรื่อง Banged Up Abroad
คริสเตียนบอกว่าโรงพยาบาลนั้นน่ากลัว และไม่มีทรัพยากรอะไรที่จะรักษาขาของพ่อของเขาได้ จนเขาคิดว่าพ่อของเขากำลังจะตายอยู่ที่นั่น แต่เขาก็จัดการย้ายพ่อไปที่โรงพยาบาลอีกแห่ง แต่แม้ว่าแพทย์ในสหราชอาณาจักรจะบอกว่าอาจจะรักษาขาของพ่อของเขาเอาไว้ได้ แต่ครอบครัวก็ต้องหาเงิน 18,000 ปอนด์ ในการพาพ่อกลับบ้าน เพราะต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญให้ติดตามไปด้วย ทำให้คริสเตียนต้องเปิดเพจ Just Giving เพื่อรับบริจาคเงิน
จากข้อมูลผู้ป่วยพบว่า อแลน เดินทางมายังประเทศไทยเพื่อสำรวจก่อนจะถูกแมงป่องกัด และติดต่อหา คริสเตียน ผู้เป็นลูกชาย เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน บอกว่าอยู่โรงพยาบาลและอาการทรุดลงเรื่อยๆ และการที่เขามีโรคประจำตัวคือ "เบาหวาน" ทำให้ขาของเขาบวมแดงก่อนติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อ และแพทย์แนะนำว่าต้องตัดขา
ทั้งนี้ คริสเตียนบอกว่าสภาพแผลที่ขาของพ่อของเขาน่ากลัวมาก และการที่ไม่ได้รับการพลิกตัวหรือพยุงให้ลุกจากเตียง ได้ส่งผลให้เกิดแผลกดทับที่แย่พอๆ กัน เขาบอกด้วยว่าการที่โรงพยาบาลเก็บค่ารักษาเป็นเงินสดและแพงมาก ทำให้เขาต้องเดินไปหาตู้ ATM ที่ใกล้ที่สุด แต่ต้องเดิน 3 กิโลเมตร เพราะโรงพยาบาลอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ไม่มีแม้แต่ร้านขายเครื่องดื่มในพื้นที่ใกล้เคียง
ส่วนการย้ายโรงพยาบาลที่แม้จะเล็กกว่า สภาพดีกว่าแต่ก็แพงกว่ามาก ทั้งยังต้องจ่ายค่ารักษาถี่มาก ทำให้ครอบครัวต้องขอความช่วยเหลือไปยังสถานทูตอังกฤษ แต่ก็ไร้ผลและไม่ได้รับการใส่ใจ จากการที่ได้รับแจ้งว่ารัฐบาลจะไม่จ่ายเงินช่วยเหลือใดๆ ในการนำอแลนกลับบ้านโดยปลอดภัย
แต่นับว่ายังโชคดีที่ครอบครัวได้รับการช่วยเหลือคาร์ล เทอร์เนอร์ ส.ส.เมืองฮัลล์ ที่หมั่นติดต่อกับครอบครัวของอแลนและคอยให้คำแนะนำปรึกษา และช่วยติดต่อบริษัทที่จะนำอแลนกลับไปอังกฤษพร้อมกับทีมแพทย์ได้ เนื่องจากไม่สามารถดำเนินการได้โดยเครื่องบินพาณิชย์ทั่วไป ซึ่งปัจจุบันได้แต่คอยลุ้นยอดเงินบริจาคที่ตอนนี้อยู่ที่ 4,607 ปอนด์
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline