- 07 ธ.ค. 2565
ลูกชายตั้งใจ บริจาคอวัยวะแม่ ช่วยเพื่อนมนุษย์ได้อีก 18 ชีวิต หวังเป็นสะพานบุญให้แม่ พร้อมฝากถึงผู้รับ "พาแม่ผมไปเที่ยวด้วยครับ"...
วันที่ 6 ธันวาคม 2565 เวลา 10:00 น. ณ โรงพยาบาลราชบุรี นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมแพทย์หญิงปาจรีย์ อารีย์รบ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดราชบุรี นายแพทย์อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชบุรี และคณะแพทย์ เจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลราชบุรี ร่วมแสดงความขอบคุณครอบครัว “คุณฮวย” ในโอกาสนี้นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้เป็นตัวแทนมอบเกียรติบัตร เพื่อเชิดชูเกียรติ แด่ นางแสงจันทร์ คุณฮวย และครอบครัวที่ได้ร่วมสร้างบุญใหญ่มอบอวัยวะ เพื่อส่งต่อไปยังผู้รอคอยอวัยวะ
โดยเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 ผู้ป่วยหญิงอายุ 48 ปี เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลปากท่อด้วยอาการไม่รู้สึกตัว โดยส่งรักษาตัวต่อมายังโรงพยาบาลราชบุรี และได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะเลือดออกในสมองจากหลอดเลือดสมองแตก เนื่องมาจากภาวะความดันโลหิตสูงที่รักษาไม่ต่อเนื่อง โดยแพทย์ได้ทำการผ่าตัดสมองเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วย แต่หลังการผ่าตัด อาการผู้ป่วยยังคงไม่ดีขึ้น ไม่รู้สึกตัว เข้าพักรักษาตัวในหอผู้ป่วยหนักศัลยกรรม โดยคุณอรวรรณ ศิริองอาจ หัวหน้าหอผู้ป่วย ได้พิจารณาว่าผู้ป่วยน่าจะเข้าเกณฑ์เป็นผู้บริจาคอวัยวะได้ตามเกณฑ์ของสภากาชาดไทย จึงได้ประสานมายังทีมรับบริจาคอวัยวะโรงพยาบาลราชบุรี โดยมีคุณกรรณิการ์ โคว้ฮุด เป็นพยาบาลผู้ประสาน โดยแพทย์ได้เข้าตรวจอาการผู้ป่วยและวินิจฉัย ว่าผู้ป่วยอยู่ในภาวะสมองตาย จึงได้แจ้งบุตรและญาติของผู้ป่วยรับทราบ โดยในครั้งนี้คุณกรรณิการ์ โคว้ฮุด ได้พิจารณาถึงประโยชน์ที่ยังมีต่อผู้อื่นจึงได้เข้าเจรจาขอรับบริจาคอวัยวะเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่สิ้นหวังต่อการรักษา บุตรและญาติของผู้ป่วยเล็งเห็นถึงบุญอันยิ่งใหญ่นี้จึง ได้บริจาคอวัยวะทุกส่วนที่ยังคงทำประโยชน์ได้ให้กับสภากาชาดไทย
ในครั้งนี้ได้รับบริจาค ตับ ไต 2 ข้าง ดวงตา 2 ข้าง ให้กับสภากาชาดไทย กระดูกและเนื้อเยื่อให้กับศูนย์เนื้อเยื่อชีวภาพกรุงเทพฯในพระอุปถัมภ์ฯ โดยทีมแพทย์โรงพยาบาลราชบุรีได้จัดเก็บดวงตาทั้ง 2 ข้าง เนื้อเยื่อ ผิวหนัง และกระดูก นำไปปลูกถ่ายให้ผู้ป่วย จำนวน 18 ราย
นายทิวากร คุณฮวย อายุ 30 ปี และ น.ส.เจจิรา คุณฮวย อายุ 25 ปี สองพี่น้อง บุตรของ นางแสงจันทร์ หรือคุณฮวย อายุ 48 ปี ผู้เสียชีวิต เล่าว่า คุณแม่ได้ประสบอุบัติเหตุ เมื่อวันที่ 30 พ.ย.2565 ที่ผ่านมา ขณะกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ เดินทางไปรับเงินค่าเก็บผักที่อยู่ห่างจากบ้านไปประมาณ 12 กม. เกิดอาการวูบขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ จนเสียหลักไถลไปกับพื้นถนน จากนั้นได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลปากท่อ มีการไม่รู้สึกตัว และเดิมมีโรคประจำตัวด้วยโรคความดันโลหิตสูง จากนั้นได้ถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลราชบุรี โดยแพทย์วินิจฉัยเส้นเลือดใหญ่แกนสมองแตก ซึ่งแพทย์พยายามยื้อชีวิตจนสุดเต็มที่ แต่สุดท้ายคุณแม่ก็ไม่รอด จนกระทั่งวันที่ 2 ธ.ค.65 ที่ผ่านมา ช่วงเช้าเวลาประมาณ 09.00 น. ทางโรงพยาบาลโทรแจ้งว่า คุณแม่อาการไม่สู้ดี จะขอให้ญาติได้ร่วมทำบุญบริจาคอวัยวะ ตนก็ตกใจทำอะไรไม่ถูก จึงขอไปดูแม่ก่อน จึงได้เดินทางไปพร้อมน้องสาว เมื่อไปถึงเห็นคุณแม่นอนแน่นิ่ง ตัวแข็งและขาเริ่มมีความเย็นมาก จึงได้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะให้กับทางโรงพยาบาลตามความประสงค์ของคุณแม่เมื่อครั้งที่ยังมีชีวิต
นายทิวากร บุตรชายคนโต เล่าว่า เดิมคุณแม่ไม่ได้บริจาคอวัยวะไว้ที่หน่วยงานใด แต่ก่อนที่คุณแม่ยังมีชีวิต คุณแม่มักจะเล่าให้ฟังว่า “อยากเป็นอาจารย์ใหญ่” อยากให้หมอนำร่างไปศึกษาเพื่อช่วยเหลือชีวิตคนประกอบกับคุณแม่เป็นคนสนุก ขยันทำงานรับจ้างทั่วไป ชอบทำบุญสุนทาน ช่วยเหลือผู้อื่น ทางครอบครัว ได้ตัดสินใจร่วมกันทำตามความตั้งใจของคุณแม่ โดยได้บริจาคอวัยวะทุกส่วนที่สามารถนำไปใช้ได้เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่กำลังรออวัยวะเพื่อเป็นการต่อชีวิต ส่วนร่างกายของคุณแม่ ทางโรงพยาบาลได้จัดการศพมาเป็นอย่างดี ร่างกายสมบูรณ์เหมือนคุณแม่นอนหลับไปเฉยๆ ดูภายนอกไม่รู้เลยว่ามีการนำอวัยวะส่วนใดไปบ้าง . บุตรทั้งสองคนของนางแสงจันทร์ กล่าวอีกว่า ตนทั้ง 2 คน อยากจะฝากถึงคนที่ได้รับอวัยวะของคุณแม่ไป “ขอให้ทุกคนมีความสุข สุขภาพแข็งแรง และ พาแม่ผมไปเที่ยวด้วย ขอบคุณครับ”
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2565 นายแพทย์กิตติ สุวรรณประทีป เป็นประธาน Service plan สาขาบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะโรงพยาบาลราชบุรี พร้อมคณะแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลราชบุรีเป็นตัวแทนมอบพวงหรีดเคารพศพผู้วายชนม์ จาก ศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย ศูนย์บริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย ศูนย์เนื้อเยื่อชีวภาพกรุงเทพในพระอุปถัมภ์ฯ และพวงหรีดจากโรงพยาบาลราชบุรี จึงขอเชิดชูเกียรติ “คุณแสงจันทร์ คุณฮวย”และครอบครัวที่ได้ร่วมสร้างกุศลอันยิ่งใหญ่ มอบอวัยวะเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป ความดีที่ไม่สิ้นสุด คือ การบริจาคร่างกายและอวัยวะเมื่อยามสิ้นสูญ
ขอบคุณ โรงพยาบาลราชบุรี
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline