- 19 ธ.ค. 2565
สาเหตุ เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ไล่ไทม์ไลน์ จมกลางทะเลอ่าวไทย โฆษกกองทัพเรือ ตอบแล้วปมข่าวลือ กำลังพล เสียชีวิต 3 นาย
สาเหตุ เรือหลวงสุโขทัยล่ม ไล่ไทม์ไลน์จมทะเล โฆษก ทร. ตอบปมกำลังพลเสียชีวิต สืบเนื่องจากกรณี เรือหลวงสุโขทัยอับปางกลางทะเลอ่าวไทย ล่าสุดพลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณี 'เรือหลวงสุโขทัย' ประสบเหตุน้ำเข้าเรือจนเกิดการเอียง เนื่องจากคลื่นลมแรง ขณะทำการลาดตระเวน อยู่บริเวณแบริ่ง 090 ระยะ 20 ไมล์ จากท่าเรืออำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
แต่เนื่องจากขณะนั้น บริเวณดังกล่าวมีคลื่นลมแรง ทำให้เรือเอียงจนทำให้มีน้ำทะเลบางส่วน ไหลเข้าระบบเครื่องไฟฟ้าผ่านท่อไอเสียข้างเรือ ส่งผลให้เครื่องไฟฟ้าดับ ส่งผลต่อเครื่องจักรใหญ่หยุดทำงาน ซึ่งผลจากเครื่องจักรใหญ่และเครื่องจักรช่วยหยุดทำงานดังกล่าว เป็นเหตุให้ไม่สามารถควบคุมเรือได้ และส่งผลให้น้ำเข้าภายในตัวเรืออย่างรวดเร็วจนทำให้เรือเอียง
ในเวลาต่อมา กองทัพเรือได้สั่งการให้เรือรบ และอากาศยานของกองทัพเรือ ประกอบด้วย เรือหลวงอ่างทอง , เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช , เรือหลวงกระบุรี , เฮลิคอปเตอร์จำนวน 2 เครื่อง พร้อม ชุดป้องกันความเสียหาย และกู้ภัยเรือ เร่งให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน นอกจากนี้ได้ประสานหน่วยภายนอกเข้าร่วมให้การช่วยเหลือ
โดย เรือหลวงกระบุรี ได้เดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุ เมื่อเวลา 20.40 น. และพยายามเข้าเทียบเรือหลวงสุโขทัย เพื่อส่งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ และช่วยเหลือกำลังพลจำนวน 106 นาย แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากคลื่นลมยังคงรุนแรง ต่อมา เรือหลวงสุโขทัย มีอาการเอียงมากขึ้น และได้จมลงเมื่อเวลา 00.12 น.
ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่มีเรือลากจูงเอกชนจากท่าเรือบางสะพานจำนวน 2 ลำ และเรือน้ำมัน "STRAITS ENERGY" ได้เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุ เพื่อให้การสนับสนุนในการช่วยเหลือ ซึ่งเรือหลวงกระบุรี , เรือน้ำมัน "STRAITS ENERGY" และเรือลากจูงทั้ง 2 ลำ ได้ดำเนินการช่วยเหลือกำลังพล
ต่อมาเวลา 01.04 น. เฮลิปคอปเตอร์แบบ Seahawks จำนวน 2 ลำ ได้เดินทางมาถึง พร้อมทั้งทำการปล่อยแพช่วยเหลือลงทะเล จำนวน 8 แพ
ทั้งนี้ เรือต่างๆ สามารถให้การช่วยเหลือกำลังพลขึ้นมาจากน้ำได้แล้ว 73 นาย โดยอยู่บนเรือหลวงกระบุรี จำนวน 47 นาย , เรือลากจูง จำนวน 4 นาย , เรือน้ำมัน "ศรีวิชัย" จำนวน 20 นาย , เรือน้ำมัน "STRAITS ENERGY" จำนวน 2 นาย ยังคงมีกำลังพลจำนวน 33 นายที่ลอยคออยู่ในทะเล ซึ่งเรือทั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่ กำลังเร่งดำเนินการค้นหาและช่วยเหลือต่อไป
โฆษก ทร.กล่าวอีกว่า เรือหลวงกระบุรี , เรือลากจูง และเรือน้ำมัน "ศรีไชยา" ได้นำกำลังพลที่ได้รับการช่วยเหลือแล้ว 71 นาย เดินทางไปยังท่าเรือบางสะพานเรียบร้อยแล้ว โดยมีกำลังพลจำนวน 11 นาย รักษา ณ โรงพยาบาลบางสะพาน ส่วนกำลังพล จำนวน 40 นาย เดินทางไปยังศูนย์พักพิง สำหรับกำลังพลที่ขึ้นมาจากเรือน้ำมัน “ศรีไชยา” จำนวน 20 นาย ได้เดินทางไปยัง โรงพยาบาลบางสะพาน เพื่อตรวจร่างกายและคัดแยกต่อไป
นอกจากนี้ เมื่อเวลา 07.00 น. เรือหลวงกระบุรีได้ออกเรือเดินทางจากท่าเรือบางสะพานไปยังพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อสนับสนุนการค้นหาและช่วยเหลือ ร่วมกับ เรือหลวงอ่างทอง รวมถึงอากาศยานแบบ Dornier และเฮลิปคอปเตอร์แบบ Seahawks ที่กำลังเร่งดำเนินการค้นหา กำลังพลทั้งหมดและเตรียมการในการกู้เรือหลวงสุโขทัยต่อไป
กองทัพเรือ โดยกองเรือยุทธการ ได้ตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย ขึ้นมาทำหน้าที่ในการประสานการปฏิบัติ เพื่อเร่งดำเนินการในการให้ความช่วยเหลือกำลังพลและกู้ภัยเรือหลวงสุโขทัย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของกำลังพลเป็นสำคัญ ทั้งนี้ญาติพี่น้องของกำลังพลประจำเรือ สามารถติดสอบถามได้ที่ ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยหมายเลขโทรศัพท์ 038182435 และ 0840023554 โดยล่าสุดมียอดกำลังพลที่ได้รับการช่วยเหลือแล้ว จำนวน 75 นาย
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวกำลังพล เสียชีวิต 3 นาย พล.ร.อ.ปกครอง กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการยืนยัน
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline