- 21 ธ.ค. 2565
ชาวเน็ตถกสนั่น หมอรพ. เอกชน โดนพักงานจนลาออก ไปขัดขาคนไข้ VIP ไม่ให้นอนแอดมิท หลังตรวจอาการแล้วให้ความเห็นว่าสามารถกลับบ้านได้
ถกสนั่น หมอรพ. เอกชน โดนพักงานจนลาออก ไปขัดขาคนไข้ VIP ไม่ให้นอนแอดมิท อีกหนึ่งโพสต์ที่กำลังถูกพูดถึงอย่างมากใน เว็บไซต์พันทิปดอทคอม ซึ่งได้เผยเรื่องราวของคุณหมอรายหนึ่ง ที่ทำงานที่โรงพยาบาลเอกชน ออกมาพูดถึงกรณีที่คุณหมอถูกสั่งพักงาน เพียงเพราะว่าเมื่อไปตรวจคนไข้ และแพทย์ให้ความเห็นว่าสามารถกลับบ้านได้ แต่คนไข้ก็ตื๊อจนสามารถนอนแอดมิทได้ในที่สุด
โดย คุณหมอคนดังกล่าวเล่าว่า ตนเป็นแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไปในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เหตุการณ์ดังกล่าวคือ มีคนไข้มาหาหมอซึ่งมีอาการปวดท้อง คุณหมอประเมินแล้วว่าคนไข้คนนี้ไม่มีอาการติดเชื้อ จึงสั่งเจาะเลือดและสั่งฉีดยา และแจ้งกับทีมว่าขอดูผลเลือดและอาการก่อนแล้วจะตัดสินใจว่าจะให้นอนโรงพยาบาลหรือไม่
แต่ไม่นานพยาบาลก็มาบอกหมอว่า คนไข้อยากนอนโรงพยาบาล และเอาชาร์ตมาให้หมอเขียน หมอจึงโทร. ไปคุยกับห้องฉุกเฉิน และได้ทราบว่าคนไข้ขึ้นวอร์ดไปแล้ว และคนที่สั่งให้ขึ้นวอร์ดนั้น เป็นเคสของฝ่ายบริหารที่เป็นคนเซ็นให้ขึ้นไปนอน ซึ่งคุณหมอยืนยันว่า ตนเป็นหมอมาเกือบ 10 ปี ไม่เคยเจ้ายศเจ้าอย่าง ทำกับเพื่อนร่วมงานอย่างเพื่อน ปฏิบัติกับคนไข้เหมือนคนในครอบครัว
สิ่งที่ถืออย่างเดียวคือ การเป็นหัวหน้าทีมการรักษาที่ต้องดูแลรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นในกระบวนการรักษา หากเกิดข้อผิดพลาด หมอที่ดูแลการรักษาต้องรับผิดชอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในกระบวนการรักษา ทุกคนมีหน้าที่ของตัวเอง การทำงานต้องเคารพ สื่อสาร และให้เกียรติกัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น มีการ "ข้ามขอบเขตหน้าที่" หมอเป็นแค่คนที่เขียนคำสั่งนอนโรงพยาบาล เพิกเฉยต่อการรักษาที่ให้ไว้ และทุกคนพร้อมใจให้เกิดขึ้นเพราะเป็นเคสวีไอพี
คุณหมอระบุอีกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ตนสามารถทำเป็นไม่เห็น มองข้ามไปได้ เขียนให้คนไข้ได้แอดมิทให้มันจบๆ ไปได้ แต่คุณหมอเลือกที่จะไม่ทำ เพราะรู้ดีว่าการดื้อด้านของตนแม้จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ที่ผ่านมาตนยึดถือระบบและความถูกต้อง ความปลอดภัยของคนไข้เป็นหลัก สิ่งที่พลาดอย่างเดียวคือการที่ตนคุมอารมณ์ไม่ได้ ขึ้นเสียงแต่ไม่มีคำหยาบ ตนถามหาคนรับผิดชอบ แต่คนที่สั่งแอดมิตกลับตอบด้วยการส่ายหน้าแล้วเดินหนี ตนโทร. ไปหาฝ่ายการแพทย์ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังด้วยอารมณ์ที่ข่มไว้ คุยกันนานและสุดท้ายก็เข้าใจประเด็นที่คุณหมอต้องการสื่อ
สุดท้าย 2 วันต่อมา มีเจ้าหน้าที่โทร. มาบอกว่า ทางผู้บริหารทราบเรื่องและไม่สบายใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น จึงให้คุณหมอสั่งพักงาน เมื่อถามว่างสั่งพักงานไปถึงเมื่อไร กลับได้รับคำตอบว่า "ก็งดไปเรื่อยๆ" ทำให้คุณหมอตัดสินใจยื่นใบลาออกทันที
ทว่าในขณะเดียวกัน ก็มีคนที่เข้ามาให้กำลังใจคุณหมอ และเชื่อมั่นว่าการที่คุณหมอไม่ให้คนไข้แอดมิท เพราะหวังดีกับคนไข้ อยู่โรงพยาบาลเชื้อโรคมากมายไม่อยากให้คนไข้มาติดโรคที่นี่ บ่อยครั้งที่คนยึดถือแบบแผนยึดตามคุณธรรม ต้องเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำและต้องถอยในที่สุด
ด้านอีกฝั่ง ก็เข้ามาบอกว่า หมอกำลังเอาบทบาทของการเป็นหมอโรงพยาบาลรัฐ มาปนกับโรงพยาบาลเอกชน หมอโรงพยาบาลเอกชน มีหน้าที่ในการวินิจฉัยโรคและรักษา ส่วนจะให้แอดมิทได้หรือไม่ได้ เป็นเพียงการให้คำปรึกษาเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์จัดหาห้องให้คนไข้ เป็นความสมัครใจของคนไข้และเป็นบริการอย่างหนึ่งของโรงพยาบาลเอกชน
เนื่องจากโรงพยาบาลเอกชนทำขึ้นมา ต้องคำนึงถึงกำไรสูงสุดอยู่แล้ว และการที่มีห้องแอดมิตสำหรับคนไข้วีไอพี ก็เพื่อการนี้โดยเฉพาะ หน้าที่ของหมอคือการรักษาคนไข้ ไม่ใช่การบริหาร เพราะผู้บริหารโรงพยาบาลเห็นว่า คนไข้ที่มีเงิน เจ็บป่วยนิดหน่อยไม่มากก็อยากมานอนที่โรงพยาบาล จ่ายเท่าไรก็ได้ไม่อั้นแค่ขอให้ได้ใกล้มือหมอ คนไข้ได้นอน โรงพยาบาลได้เงิน วิน-วินทั้งสองฝ่าย คนจนๆ ยังรู้เลยว่า โรงพยาบาลเอกชนทำมาเพื่อการค้า
แต่บางคนก็บอกว่า เรื่องนี้คุณหมอน่าจะเจ็บใจ ที่โดนฝ่ายบริหารหักหน้า สั่งให้คนไข้นอนโดยการข้ามหน้าข้ามตา หมอเป็นคนที่มีจรรยาบรรณก็น่านับถือ แต่ถ้าถูกโรงพยาบาลพักงานก็เข้าใจโรงพยาบาลเช่นกัน เพราะหมอกำลังทำให้โรงพยาบาลเสียรายได้
บางคนได้เข้ามาเสริมว่า ในขณะที่โรงพยาบาล มีเครื่องมือเครื่องไม้ อุปกรณ์ และบุคลากรที่จำกัด การจะได้ CT MRI หรือ อัลตราซาวด์ ต้องมีข้อบ่งชี้เท่านั้น แต่ไม่ใช่กับโรงพยาบาลเอกชน ที่หมอต้องมาหาจุดสมดุลระหว่างจรรยาบรรณแพทย์และความต้องการของคนไข้ บางทีคนไข้อยากตรวจ อยากเจาะเลือด อยากแค่ได้ความมั่นใจเท่านั้น
อย่าไปคิดว่าการที่ให้คนไข้นอนโรงพยาบาล จะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้คนไข้ติดเชื้อโรค แต่ให้มองว่าเป็นการเยียวยาทางจิตใจ เผื่อคนไข้กลับบ้านแล้วไม่สบายใจ ก็ต้องกลับมาที่โรงพยาบาลอยู่ดี สู้ให้นอนที่โรงพยาบาลไปเลยจะดีกว่า เพียงแค่แจ้งให้คนไข้ทราบว่าถ้านอนจะต้องเจออะไรบ้างเท่านั้น ถ้าคนไข้ยังยืนยันว่าจะทำ ก็ให้ลงข้อมูลในเวชระเบียนไว้ด้วยว่าได้มีการแจ้งคนไข้ให้ทราบและปรามไว้แล้ว หรือถ้าคนไข้มีประกัน ก็อาจจะแจ้งว่าส่วนนี้ประกันไม่จ่าย และหมอเอกชนต้องดูให้ดี ๆ เพราะถ้าทำน้อยเกินแล้วพลาดมาคนไข้ฟ้อง ทำมากเกินแล้วอาจโดนประกันฟ้องได้
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่บางคนบอกว่า หมอเจ้าของกระทู้เป็นเพียงหมอฉุกเฉิน คนไข้ที่มานั้นไม่ใช่แค่ผู้ป่วยวีไอพี แต่ยังเป็นผู้ป่วยเรื้อรัง เขาอาจต้องการให้หมอที่เจอประจำเป็นคนตรวจ เลยต้องการนอนที่โรงพยาบาล หมอเจ้าของกระทู้เป็นแค่คนดูแลเบื้องต้นเท่านั้น และคนไข้สูงอายุ บางทีเป็นหนึ่งอาการแล้วทุกอย่างจะรวนหมด คนไข้อยากได้ความสบายใจ จึงเลือกที่จะนอนและเจอหมอเฉพาะทาง
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline