- 22 ม.ค. 2566
เปิดคลิปเต็ม สาวจีนจ่าย 7,000 บาทให้ตำรวจท่องเที่ยวไทยนำขบวน ะดวกจนต้องให้ทริปต่างหาก สบายจนชมเปาะตลอดทาง
เปิดคลิปเต็ม สาวจีนจ่าย 7,000 ให้ตำรวจไทยนำขบวน สะดวกสบายจนชมเปาะตลอดทาง กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ กับกรณีของ ตำรวจท่องเที่ยวรับจ้างนำขบวนนักท่องเที่ยวสาวจีน ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ มีรายงานว่า CRI ตำรวจท่องเที่ยว ออกมาชี้แจง คลิปตำรวจไทย อำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวสาวจีน พร้อมตั้งกรรมการสอบนายตำรวจที่ปรากฎในคลิปแล้ว
โดย พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (ผบช.ทท.) มอบหมายให้ พล.ต.ต. อภิชาติ สุริบุญญา โฆษกกองบัญชาการฯ ชี้แจงต่อสื่อมวลชนกรณีมีคลิปเผยแพร่ในลักษณะที่มีตำรวจจำนวนหนึ่งรวมตัวกันอำนวยความสะดวกดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติในสนามบินและใช้ยานพาหนะตำรวจนำขบวนไปจนถึงโรงแรมที่พักนั้น
ผบช.ทท. ชี้แจงว่า หลังจากที่เห็นคลิปดังกล่าว ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้สั่งการให้ตรวจสอบทันที ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวขอเรียนต่อสื่อมวลชน ดังนี้
1. ทางกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ยอมรับว่า มีข้าราชการตำรวจสังกัดตำรวจท่องเที่ยวจำนวน 1 ราย ปรากฏอยู่ในคลิปดังกล่าว โดยทราบภายหลังว่าเป็น ร.ต.อ. สมพล ภิญโญสโมสร ตำแหน่ง รองสารวัตร กองกำกับการ 3 (รับผิดชอบสนามบินสุวรรณภูมิ) สังกัดกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว1
2. เหตุการณ์ในคลิป เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สายการบินฮ่องกงแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ HX671 เดินทางเข้าประเทศไทยพอดี ซึ่งจากการตรวจสอบในวันดังกล่าวแล้ว ทางกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวไม่มีการสั่งการใดๆ ให้ตำรวจท่องเที่ยวสุวรรณภูมิอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวรายใดเป็นกรณีพิเศษ
3. นักท่องเที่ยวที่ปรากฏในคลิปนั้น ทางกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวทราบชื่อแล้ว (แต่ขออนุญาตไม่เอ่ยนาม) ซึ่งนักท่องเที่ยวรายนี้เดินทางมาเที่ยวไทยพร้อมกับมารดา
4. ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้สั่งการให้กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 ต้นสังกัดของ ร.ต.อ.สมพล ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยด่วน แล้วรีบรายงานให้ทราบ เพื่อที่กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวจะได้สนับสนุนข้อมูลให้จเรตำรวจแห่งชาติที่อาจตั้งคณะทำงานตรวจสอบ และจะได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงทราบ
พร้อมทั้งกำชับให้กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 ต้นสังกัด ร.ต.อ.สมพล ให้ความร่วมมือต่อหน่วยงานผู้บังคับบัญชาและหน่วยงานอื่นๆ ที่พร้อมตรวจสอบอย่างเต็มที่ ซึ่ง พล.ต.ต. ม.ล. สันธิกร วรวรรณ ผู้บังคับกองบังคับการท่องเที่ยว 1 ได้สั่งการให้ผู้กำกับการ 3 ต้นสังกัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามสั่งการแล้วตามหนังสือ บก.ทท.1 เลขที่ 0038.201/255 ลง 21 มกราคม 2566
5. ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้น ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวสั่งกำชับให้ตรวจสอบจนเกิดความกระจ่างชัดด้วยว่า ตำรวจกลุ่มนี้ทำกันเป็นกระบวนการและใช้อำนาจหน้าที่ประพฤติปฏิบัติอย่างนี้มาหลายครั้งแล้วหรือไม่
โดยหากพบหลักฐานหรือข้อมูลอันเชื่อได้ว่าเป็นการกระทำเช่นนั้น จะได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงและพิจารณาโทษอย่างเด็ดขาดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป เพราะถือว่า เป็นพฤติกรรมที่สร้างความเสื่อมเสียต่อกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวและสำนักงานตำรวจแห่งชาติในภาพรวมเป็นอย่างยิ่ง
โฆษกกองบัญชาการตำรวจตำรวจท่องเที่ยวกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า จากคลิปที่มีการเผยแพร่ผ่านสื่อออกมาครั้งนี้ ขอขอบคุณสื่อมวลชนทุกแขนง และ ประชาชนที่ร่วมกันตรวจสอบรวมถึงนำเสนอพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจที่ไม่เหมาะสมอันนำไปสู่การตรวจสอบและการพิจารณาลงโทษข้าราชการตำรวจที่มีพฤติกรรมดังกล่าว
ซึ่งเท่ากับว่า เป็นการทำให้การท่องเที่ยวของไทยโปร่งใส ตรวจสอบได้ และการอำนวยความสะดวกรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวนั้น จะต้องไม่ทำเฉพาะเจาะจงเพียงแค่นักท่องเที่ยวรายหนึ่งรายใดเท่านั้น แต่ต้องทำและดำเนินการให้เกิดความเท่าเทียมต่อนักท่องเที่ยวทั้งหมดทั้งชาวไทยและต่างประเทศ
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ขอน้อมรับนำข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นไปปรับปรุงแก้ไข ลงโทษผู้ที่กระทำการไม่เหมาะสม และหามาตรการที่มีประสิทธิภาพป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นอีกต่อไป รวมทั้งจะพิจารณาคัดเลือกสรรบุคลากรที่มีคุณภาพมาปฏิบัติหน้าที่ในจุดที่อ่อนไหวต่อภาพลักษณ์ประเทศต่อไปด้วย
ทั้งนี้หากผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว มีความคืบหน้าเป็นประการใด ทางกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวจะได้เรียนแจ้งสื่อมวลชนให้ทราบเป็นระยะๆ ต่อไป
อย่างไรก็ตามในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปเหตุการณ์วันเกิดเหตุอย่างมากมาย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สาวจีนคนดังกล่าวได้มาถึงประเทศไทยและมีการชมเจ้าหน้าที่ถึงเรื่องการอำนวยความสะดวกต่างๆ จนเธอต้องให้ทริปต่างหาก ซึ่งคลิปดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนคนไทยอย่างมาก
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline