- 24 มี.ค. 2566
"ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" ต่อสายตรงหาทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ลุยฟ้องทนายตั้ม ลั่นสู้ต่อแม้มีผู้ใหญ่การเมืองเตือน บอกให้หาทางลงได้แล้ว
24 มี.ค.66 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ลงพื้นที่ซอยเฉยพ่วง เขตจตุจักร ขึ้นรถติดเครื่องขยายเสียง รณรงค์การต่อต้านนโนบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทย พร้อมแจกเสื้อยืดให้กับประชาชน และแถลงข่าวชี้แจงกรณีโรงพยาบาลศิริราช เตรียมคืนเงินบริจาคจำนวน 3 ล้านบาท ที่อาจเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย
นายชูวิทย์ เผยว่า เมื่อวานนี้มีผู้ใหญ่ในวงการการเมืองที่ตนเคารพ บอกให้หาทางลงได้แล้ว แต่ตนยืนยันจะสู้ต่อไปจนกว่าจะไม่ไหว เพราะยังมีอีก 2 เรื่องที่ตนต้องทำ ไม่เช่นนั้นจะไม่มีใครทำ คือ
- การรณรงค์ต่อต้านกัญชาเสรี ซึ่งมีพรรคการเมืองพยายามฟ้องร้องตน ทั้งที่ เยาวชนอาจมีแนวโน้มจะเริ่มเสพกัญชาและไปใช้ยาเสพติดชนิดอื่น
- การคอรัปชั่น มีการซื้อขายเสียงนักการเมือง ตนจะทำกิจกรรมเช่นนี้ไปตลอด พร้อมยินดีขึ้นศาลตามวิถีประชาธิปไตย ยืนยันว่าทั้งหมดนี้ไม่ได้ทำในนามส่วนตัว พร้อมยินดีพลีชีพ
นอกจากนี้ยังได้มอบหมายทนายความดำเนินการตามกฎหมาย เพราะมีกระบวนการทำลายล้างตน ลูกตน รวมถึงทรัพย์สิน จึงขอถามกลับไปยังนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้มว่าสิ่งที่ทำไปนั้น เป็นไปในนามสารวัตรซัวหรือไม่
เพราะทนายตั้มก็เป็นตัวแทนของเว็บพนันออนไลน์เช่นเดียวกับนายสันธนะ ประยูรรัตน์ ที่มักจะออกมาแสดงตัวเวลาตนแฉธุรกิจสีเทา หากทนายตั้มเก่งจริงต้องไปฟ้องศาลหรือแจ้งความ ไม่มาใช้สื่อออนไลน์เป็นเครื่องมือ ซึ่งเรื่องของทนายตั้มนั้น ให้สอบถามลูกน้องของนายตำรวจใหญ่ระดับผู้กำกับ
ทั้งนี้ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ยังต่อสายโทรศัพท์ถึงทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ในฐานะทนายความของนายชูวิทย์ พร้อมยืนยันจะฟ้องร้องทนายตั้ม โดยทนายอนันตชัย เผยว่าการกระทำของทนายตั้มนั้นถือว่าผิดมารยาททนายความ และหากยังไม่มีพยานหลักฐานชัดเจนแล้วนำมาเปิดเผยต่อสาธารณชนยังถือว่าเข้าข่ายการหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
ส่วนกรณีนายชูวิทย์ นำเงินสีเทาไปบริจาคนั้น ส่วนตัวมองว่ายังไม่เข้าข่ายการฟอกเงิน เพราะไม่ได้นำไปซื้อทรัพย์สิน อย่างไรก็ตามประเด็นนี้อาจต้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเพิ่มเติม
สำหรับประเด็นการบริจาคเงินให้โรงพยาบาลนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่การฟอกเงิน ในเมื่อตนรับกลับมาคืนให้เจ้าของ ไม่ได้นำเงินไปซื้อหรือลงทุนอะไร