"ทนายอั๋น"ซัด"ทนายตั้ม"เรียกรับเงิน แค่เดินทางลงพื้นที่บ้านกกกอก คิด5แสน

   ทนายอั๋น บุรีรัมย์ หรือ นายภัทรพงศ์ ศุภักษร บุกดีเอสไอวันที่ 5 เม.ย.66 ยื่นหนังสือร้องเรียนต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เนื่องจากพบว่า งบดุลบริษัท Sittra Law Firm ของทนายตั้ม มีงบดุลขาดทุมสะสมมาหลายปี ซึ่งไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของทนายตั้มและครอบครัวที่ใช้ชีวิตอย่างหรูหราอย่างมาก  เกิดข้อสงสัยว่า ทนายตั้มมีรายได้พิเศษจากทางใดอีกหรือไม่
 

สำหรับแหล่งที่มารายได้ของทนายตั้ม 3 ทาง คือ 
1.บริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม
2.งานส่วนตัว 
3.มูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ของทนายตั้ม

อยากจะให้ตรวจสอบทั้ง3แหล่งว่าสอดคล้องกันหรือไม่ เข้าลักษณะร่ำรวยผิดปกติหรือไม่ หรือมีรายได้จากช่องทางใดที่ผิดกฎหมายหรือไม่ ??

  เมื่อตรวจสอบแล้วโปร่งใสจะเป็นผลดีต่อตัวทนายตั้มเอง แต่หากพบการทุจริตจะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของอาชีพทนายความ และอาจเข้าข่ายความผิดมูลฐานฟอกเงินด้วย ทั้งนี้ ตนยังไม่ได้เดินทางไปร้องทุกข์ ปปง. แต่มาร้องขอให้ดีเอสไอ ใช้เครื่องมือตรวจสอบ และที่ผ่านมา ทนายตั้ม ก็ไม่เคยออกมาชี้แจงเรื่องรายได้ดังกล่าว

   ส่วนกรณีที่ทนายตั้มระบุว่าเรียกรับเงิน 300,000 บาท เป็นค่าเสี่ยงภัยในการแถลงข่าว เนื่องจากอาจจะถูกฟ้องนั้น ทนายอั๋นกล่าวว่า การที่ทนายตั้มบอกว่ามีค่าเสี่ยงภัย แสดงว่าสิ่งที่ทนายตั้มทำนั้น เป็นสิ่งผิดกฎหมายหรือไม่

   และทนายตั้มกำลังนำลูกความไปทำสิ่งผิดกฎหมายถึงต้องเสี่ยงภัยหรือไม่ เพราะตนเองยังแถลงข่าวได้โดยไม่ต้องเกรงกลัวใด ๆ หากเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามหลักกฎหมาย

   ดังนั้น การที่ทนายตั้มเรียกรับเงินเช่นนี้ จะเข้าข่ายผิดมรรยาททนายความหรือไม่ ซึ่งเมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปยื่นให้คณะกรรมการมรรยาททนายความ สภาทนายความ ตรวจสอบการกระทำของทนายตั้มแล้ว ซึ่งต้องใช้เวลาติดตามความคืบหน้าสักพัก โดยตนจะโทรไปตรวจสอบความคืบหน้ากับสภาทนายความทุกสัปดาห์ 

  ส่วนกรณีสลิปโอนเงิน 500,000 บาทที่มีกระแสข่าวว่าแฟนคลับลุงพลจากต่างประเทศโอนเงินเข้ามูลนิธิของทนายตั้มนั้น ทนายอั๋นระบุว่า จากหลักฐานที่ตนเองมี ประกอบที่ลุงพลออกมายอมรับผ่านรายการโทรทัศน์แห่งหนึ่ง ก็ยืนยันได้ว่าแฟนคลับลุงพลมีการโอนเงินจริงในค่าช่วยเหลือคดี จากตอนแรก 3 ล้านบาท ต่อรองเหลือ 2 ล้านบาท

   แต่มีการโอนจริง โดยเงินก้อนนี้เท่าไหร่ตนและลุงพลยังไม่ทราบยอด ส่วนเงิน 500,000 บาท ที่ตนออกมาเปิดเผยนั้น ก็เป็นค่าให้ทนายตั้มเดินทางลงพื้นที่บ้านกกกอก ซึ่งเป็นคนละส่วนกัน โดยก้อนนี้ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” ล่าสุดได้ออกมายืนยันว่าเคยจ้างทนายตั้มทำคดีความ มีค่าเดินทางเหยียบบ้านกกกอก 5 แสนบาท

   ทั้งนี้ ทนายอั๋นย้ำว่า ทนายตั้มเรียกรับเงินจริงจากคำพูดของลุงพล สวนทางกับที่ทนายตั้มกล่าวอ้างว่าตนไม่ได้เงินสักบาทจากคดีลุงพล