- 17 เม.ย. 2566
พริตตี้สาวหอบกระเช้า ขอโทษ ตร. หลังโพสต์เข้าด่านเมาไม่โดนจับ ที่แท้เข้าใจผิดไม่ได้เป่าเครื่องวัดแอลกอฮอล์
พริตตี้สาวหอบกระเช้า ขอโทษตำรวจหลังโพสต์เข้าด่านเมา แต่ไม่โดนจับ : หลังจากที่ก่อนหน้านี้โซเชียลต่างถล่มเดือด เมื่อโลกออนไลน์แฉโพสต์ของพริตตี้สาวรายหนึ่งที่โพสต์เซลฟี่หลังจบงาน คาดว่าเป็นปาร์ตี้วันสงกรานต์ เจ้าตัวบอกว่าเมามากแต่ยังขับรถและที่สำคัญไปเจอด่านตรวจแอลกอฮอล์ เป่าจนทะลุปรอทแต่พี่ตำรวจใจดีไม่จับเธอ
พริตตี้สาวรายนี้เล่าว่าตัวเองเพิ่งเสร็จจากงานในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ตัวเองนั้นเมามากแต่ยังขับรถกลับห้องได้ ขอบคุณตัวเองที่เมาแค่ไหนแต่ยังขับรถไปไหนมาไหนได้ และที่สำคัญตำรวจยังปล่อยผ่านเพราะเข้าใจว่าทำงาน จากโพสต์ดังกล่าวทำให้เธอโดนชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก อีกทั้งยังตั้งคำถามไปถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่
เกี่ยวกับเรื่องนี้มีรายงานว่า พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุวิชชา จินดาคำ ผบก.จร. พ.ต.อ.จิรกฤต จารุภัทร์ รอง ผบก.จร. พ.ต.อ.ประทีป ศรีหรั่งไพโรจน์ ผกก.กก.5 พ.ต.อ.จามร ทองพรรณ ผกก.กก.1 บก.จร. และ ส.ต.อ. ชนินท์ เพิ่มสุข ผบ.หมู่งานตรวจพิสูจน์ผู้ขับขี่ กก.5 บก.จร. แถลงชี้แจงกรณีสาวพริตตี้โพสต์เฟซบุ๊กระบุขอบคุณตำรวจหลังถูกเป่าแอลกอฮอล์ด่านตรวจแต่ไม่ดำเนินคดี จนถูกกระแสวิจารณ์ทางโซเชียลอย่างหนัก ช่วงวันที่ (13 เม.ย.) ที่ผ่านมา โดยมี น.ส.สโรชา อนันตพงษ์ อายุ 27 ปี อาชีพ MC พริตตี้ผู้โพสต์เดินทางมาเพื่อนำกระเช้าแบรนด์เข้าขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบภาพกล้องที่ติดตัวของตำรวจประจำด่าน พบเห็นรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีขาว ทะเบียน 2ขถ 4576 กรุงเทพมหานคร ของผู้โพสต์เข้ามาที่ด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ เมื่อเวลา 01.54 น. วันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมา บริเวณหน้าร้านบ้านกรองน้ำ สาขารามอินทรา ถนนรามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. มุ่งหน้าวงเวียนบางเขน ได้ชะลอรถยนต์และเปิดกระจกด้านข้างคนขับ
ขณะนั้นตำรวจได้พูดว่า "ขออนุญาตครับ" ก่อนจะส่องไฟฉายมาภายในรถยนต์ จากนั้นก็ขับออกรถยนต์ไปโดยใช้เวลาประมาณ 5 วินาที ซึ่งตำรวจมีภาพที่บันทึกระหว่างเกิดเหตุมาแสดงต่อสื่อมวลชน ตำรวจมีขั้นตอนการตรวจคัดกรองรถยนต์อยู่ 3 ขั้นตอน ซึ่งรถยนต์คันนี้ยังอยู่ในขั้นตอนแรก โดยจะสังเกตจากท่าทาง พิรุธ ของคนขับ ก่อนที่จะตรวจวัดเบื้องต้น หากพบมีแอลกอฮอล์ก็จะเข้าสู่การตรวจวัดในจุดที่ 2 ถึง 3 และยืนยันว่าตำรวจตรวจทุกคนอย่างเสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติว่าเป็นบุคคลใด มีชื่อเสียงหรือไม่ ซึ่งในกรณีนี้ยังไม่มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ตามที่ผู้โพสต์กล่าวอ้างแต่อย่างใด
ด้าน น.ส.สโรชา ยอมรับว่า เลิกจากงานกำลังเดินทางกลับบ้านพักย่านวงเวียนบางเขนได้ดื่มแอลกอฮอล์ในงานมาเล็กน้อยเท่านั้น และไม่ได้มีอาการเมา และที่โพสต์ไปเพราะเป็นการขอบคุณเจ้าของร้าน และคนที่พาไปทำงาน ซึ่งเป็นปกติที่จะโพสต์หลังเสร็จงานทุกครั้ง แต่ครั้งนี้มีการโพสต์เกี่ยวกับเรื่องด่านตรวจไปด้วย เพื่อต้องการให้แฟนคลับและผู้ติดตามในเฟซบุ๊กเห็นใจว่าไปทำงานมา โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา
ซึ่งในขณะที่ขับรถผ่านด่านก็มีตำรวจเรียกตรวจจริง และมีไฟฉายส่องเข้ามาในรถ โดยที่ไม่แน่ใจว่าเป็นเครื่องเป่าแอลกอฮอล์หรือไม่ จึงได้เป่าไป แต่ยืนยันว่าไม่ได้ถูกเรียกตรวจจนปริมาณแอลกอฮอล์เกินกำหนดตามที่โพสต์ไป พร้อมกับขอโทษทุกฝ่ายที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย
ทั้งนี้ ส.ต.อ. ชนินท์ เพิ่มสุข ผู้บังคับหมู่งานตรวจพิสูจน์ผู้ขับขี่ กก.5 บก.จร. ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุ เปิดเผยว่า มีรถยนต์ผ่านด่านตรวจจำนวนมาก และจำไม่ได้ว่ารถของผู้โพสต์เป็นคันใด ซึ่งก็เป็นเพียงในขั้นตอนของการคัดกรองรถเท่านั้น แต่ยอมรับว่า หากมีพิรุธจริง หรือเข้าข่ายที่จะต้องตรวจเพิ่มก็จะมีกลิ่นแอลกอฮอล์ออกมาจากรถ หรือผู้ขับขี่จะมีอาการท่าทางเมาแสดงออกมา แต่หากไม่มีก็จะปล่อยผ่านด่านออกไป
พล.ต.ต.จิรสันต์ เผยด้วยว่า ได้พิจารณาข้อความที่โพสต์แล้ว ถือว่าเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.การกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 นำเข้าข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่การกระทำดังกล่าวของผู้โพสต์เมื่อได้เรียกตัวมาสอบถามถึงพฤติการณ์แล้วพบว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ และไม่มีเจตนา พร้อมกับได้เข้ามาขอโทษตำรวจแล้ว ตำรวจในฐานะผู้เสียหายจึงไม่ติดใจดำเนินคดี เนื่องจากเป็นคดีที่สามารถยอมความกันได้
อย่างไรก็ตาม น.ส.สโรชา ยังได้มอบกระเช้าแบรนด์ให้ ส.ต.อ.ชนินทร์ เพื่อขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์