- 23 พ.ค. 2566
หนุ่มรับไม่ได้ แฟนโดนแท็กซี่ล่วงละเมอด ช้ำใจหนักคนร้ายติดคุกแค่ 3 ปี พ้ออยากโดนประหารเอง สุดท้ายฝ่ายชายโดนทัวร์ลงยับเอง
กลายเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ เมื่อเพจเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้มีการแชร์เรื่องราวเตือนภัยเกี่ยวกับคดีของหญิงสาวรายหนึ่งที่เรียกรถแท็กซี่จากแอปฯ แต่กลับถูกคนขับพาไปล่วงละเมิด สุดท้ายผู้ก่อเหตุกลับถูกตัดสินจำคุกเพียง 3 ปีเท่านั้น ตัดพ้ออยากโดนประหารเอง แถมแฟนหนุ่มของเหยื่อโดนทัวร์ลงอย่างหนัก โดยโพสต์ดังกล่าวระบุว่า
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงปลายปี 2565 ช่วงเช้ามืดคืนหนึ่ง หญิงสาวได้นัดเจอกับเพื่อน โดยฝ่ายแฟนหนุ่มรับปากว่าจะไปรับกลับ แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องไปรับกลับไม่สามารถไปได้ เนื่องจากเขานั้นดื่มกับเพื่อนอยู่อีกที่ เกรงว่าขับออกไปจะเจอด่านหรืออาจไปเป็นภัยบนท้องถนนกับผู้อื่น จึงแนะให้แฟนเรียกแอปฯ รถโดยสารกลับมา ต่อมาได้เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น เมื่อคนขับพาออกนอกเส้นทางไปมุมมืดที่ติดถนนศรีนครินทร์ จ.สมุทรปราการ ก่อนจะทำการล่วงละเมิดฝ่ายหญิง
ทั้งนี้ เมื่อดูจากการลงมือของคนร้าย ไม่แน่ใจว่าอาจจะเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้ว และไม่แน่ว่าอาจมีผู้ถูกล่วงละเมิดคล้ายกันในลักษณะนี้เช่นกันหรือไม่ ซึ่งหลังเกิดเหตุ สิ่งที่อยากเตือนถึงเหยื่อก็คือขอให้ตั้งสติให้ดีรวบรวมหลักฐานที่ใช้ติดตามคนร้ายได้ พาตัวเองไปโรงพยาบาลเพื่อการเก็บหลักฐาน จากนั้นไปแจ้งความกับโรงพักในท้องที่เกิดเหตุ จะยิ่งทำให้คดีนั้นคืบหน้าได้เร็ว และสิ่งที่สำคัญคือต้องรวบรวมสติและกำลังใจให้มากเพื่อที่จะผ่านไปในแต่ละวันหลังเกิดเหตุการณ์ได้
โดยคดีนี้คนร้ายถูกดำเนินคดี และศาลตัดสินจำคุก 3 ปี ยังไม่รวมกระบวนการลดหย่อนโทษต่างๆ จึงเกิดคำถามว่า จะเพียงพอไหมที่ให้คนร้ายนั้นได้สำนึก ได้ขัดเกลาจิตใจก่อนกลับคืนสู่สังคมมาอยู่ร่วมกันอีกในภายภาคหน้า มองว่าเคสนี้เป็นภัยสังคมร้ายแรง เพราะแม้จะเรียกในแอปฯ ที่มีทั้งข้อมูลรถและคนขับแต่ก็ยังเกิดเหตุได้ และก็อาจจะเกิดเคสนี้อีกไม่ว่าจะกับคนไทยหรือนักท่องเที่ยวต่างชาติหากปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข
สุดท้ายนี้ ยอมรับว่าตนนั้นคือต้นเหตุที่ทำให้เรื่องมันเกิดขึ้นได้ เราไม่มีทางรู้ว่าการเรียกรถโดยสารนั้นจะไปเจอกับคนที่ดีหรือคนไม่ดี จึงอยากเตือนถึงผู้อ่านว่า จงเป็นเกราะคุ้มกันภัยที่ดี ปกป้องคนที่เรารักจากภัยรอบตัว เพราะบาดแผลทางจิตใจอาจจะรักษาไม่ได้ การเห็นคนรักต้องคอยเดินทางรับการรักษาต้องกินยาหลายขนาน ต้องเจาะเลือดที่แขนจนเป็นรอยซ้ำๆ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ สะดุ้งตื่นหวาดผวา ต้องการมีกำลังใจที่จะผ่านไปในแต่ละวัน มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย จึงไม่อยากให้มีใครโชคร้ายและเจ็บปวดแบบที่เราได้ประสบพบเจอ
นอกจากนี้ ทางด้านฝ่ายหญิงซึ่งเป็นผู้ถูกกระทำจากเหตุการณ์นี้ ได้ออกมาแสดงความเสียใจกับคำตัดสินจำคุกคนร้าย 3 ปี ซึ่งดูน้อยเกินไป ทั้งที่เธอนั้นต้องเผชิญกับครึ่งปีที่สู้กับโรค PTSD พยายามสู้มาตลอด นี่คือคำตอบและความหวังสุดท้ายที่เธอควรได้รับเหรอ รู้สึกเหมือนสู้ต่อไม่ไหว หากคนร้ายข่มขืนไม่โดนประหาร ก็ขอให้เธอนั้นเป็นคนโดนประหารเองก็ได้ เพราะแม้เธอจะรอดออกมา แต่ก็เหมือนตายทั้งที่มีลมหายใจ
หลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ไป มีชาวเน็ตต่างเข้ามาให้กำลังใจทั้งคู่กันจำนวนมาก และหวังให้ผ่านประสบการณ์เลวร้ายไปได้ ขณะที่บางส่วนตำหนิว่า แฟนหนุ่มนั้นไม่ควรผิดสัญญาที่จะไปรับแฟนด้วยการไปดื่มกับเพื่อนจนขับรถไม่ได้ และเมื่อรู้อยู่แล้วว่าต้องไปรับแฟนสาวก็ไม่ควรดื่ม
นอกจากนี้หลายคนก็มองว่า เคสนี้ไม่ควรจะไปซ้ำเติมฝ่ายชายที่น่ารู้สึกผิดไม่น้อยอยู่แล้ว เพราะการเรียกรถจากแอปฯ ก็เป็นอะไรที่หลายคนคิดว่าปลอดภัย และไม่มีใครต้องการจะเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้แน่นอน