- 15 มิ.ย. 2566
บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เผยความคืบหน้า คดี แอม ไซยาไนด์ เลื่อนปิดคดี เตรียมแจ้งข้อหาบุคคลใกล้ชิด
เมื่อเวลา 10.55 น. วันที่ 15 มิ.ย. ที่ สโมสรตำรวจ ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้าทางคดี แอม ไซยาไนด์ ว่า จากเดิมที่จะมีการสรุปสำนวนคดีในช่วงสัปดาห์นี้ หรือ วันศุกร์ที่ 16 มิ.ย. ได้มีความเปลี่ยนแปลง เนื่องจากภายหลังจากที่ได้นำสำนวนคดีไปหารือกับอธิบดีอัยการถึงสองครั้ง ท่านก็ให้ความเห็นว่าสำนวนมีความสมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม คณะทำงานได้มีลงความเห็นว่าจะขอเลื่อนการสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการไปเป็นสัปดาห์หน้าแทน เนื่องจากการรวบรวมพยานหลักฐาน ในส่วนของเส้นทางการเงิน พบความเชื่อมโยงว่ามีบุคคลใกล้ชิดแอมมีธุรกรรมการรับ-โอนเงินระหว่างกัน ทุกๆครั้งที่มีการตาย เงินจะถูกโอนเข้าบัญชีธนาคารของคนนี้ โดยเป็นการโอนเงินในห้วงระหว่างศพคดีกลางๆ ไม่ใช่การโอนเงินในช่วงศพคดีแรกๆ
ซึ่งในวันจันทร์ที่ 19 มิ.ย. เราจะเรียกบุคคล 1 รายดังกล่าวแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น เป็นผู้สนับสนุน เป็นบุคคลที่รู้ทั้งหมด บ้างอยู่ในเหตุการณ์การตายด้วย โดยพนักงานสอบสวนพบว่ามีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับแอม จำนวน 4-5 คดี จากทั้งหมด 15 คดี ซึ่งยิ่งเวลาเหลือมาก เรายิ่งไล่ได้มากขึ้น เส้นทางเงินทั้งหมด บัญชีธนาคารกว่า 400 บัญชี เราก็ได้มา และมีการนำมาวิเคราะห์ความเชื่อมโยงทั้งหมด ดังนั้น ในวันจันทร์ทุกคนจะทราบว่าบุคคลใกล้ชิดแอมรายนี้คือใคร แต่ตอนนี้ขอสงวนไว้เป็นในส่วนของสำนวนคดีก่อน
เมื่อถามถึงความเข้าไปเกี่ยวโยงของผู้ใกล้ชิดแอมที่จะถูกแจ้งข้อหาในวันจันทร์นั้น พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย รอง ผบก.สส.ภ.4 ระบุว่า ส่วนใหญ่ในแต่ละคดีจะมีความแตกต่างกันไป บ้างเกี่ยวข้องทั้งก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุอีกว่า ในวันจันทร์นี้ ภายหลังเรียกบุคคลใกล้ชิดแอมมาแจ้งข้อหาเรียบร้อยแล้ว จากนั้นเราจะมีการสรุปสำนวนในผัดฝากที่ 4 ซึ่งปกติพนักงานอัยการจะมีเวลาถึง 3 ฝาก ส่วนผู้ใกล้ชิดมากๆอีกคนของแอม (ทนายพัช) เราแจ้งข้อหาได้เพียงเท่าเดิม เพราะจากการรวบรวมพยานหลักฐานนั้น ไม่ไปถึงว่าบุคคลนี้มีส่วนรู้เห็นฐานร่วมกันฆ่าแต่อย่างใด
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า พนักงานสอบสวนมีการแจ้งครบทุกข้อหาทุกคดีกับแอม ดังนั้น เราไม่กังวลใจ เพราะเพียงคดีเดียวก็ประหารชีวิตแล้ว ยกเว้นอย่างเดียว คือ หากผู้ต้องหารับสารภาพในชั้นศาล โทษก็จะเหลือเพียงโทษจำคุกตลอดชีวิตแทน ซึ่งผู้ต้องหาก็สามารถใช้สิทธิต่อสู้ได้ อีกทั้งคดีแอมทั้งหมดล้วนเป็นคดีซ้ำๆกัน ต่างแค่ต่างกรรมต่างวาระ ซึ่งในจำนวน 15 คดี เมื่อคูณ 7 ข้อหา ก็เท่ากับ 80 ข้อหาที่แอมถูกแจ้งไป แต่โทษสูงสุดนั้น หากให้การปฏิเสธก็ประหารชีวิต แต่เราก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเธอ ตราบใดที่ศาลยังไม่พิพากษาคำสั่งคดี ก็ถือเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ แต่คดีของแอมถือเป็นคดีประวัติศาสตร์ และเป็นคดีฆาตรกรต่อเนื่อง ทั่วโลกให้ความสนใจ ถ้าจับเธอไม่ได้ก็คงมีศพที่ 15-17 ถัดๆไป
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุด้วยว่า การแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับบุคคลนั้น หากเป็นคนที่เคยอยู่ในสำนวนเดิม เราไม่จำเป็นต้องออกหมายจับ แต่สามารถเรียกมาแจ้งข้อหาได้ ทั้งนี้ ในการแถลงปิดคดีแอม ไซยาไนด์ จะเป็น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. รับหน้าที่แถลงปิดคดีต่อไป