- 10 ก.ค. 2566
เพจดังเปิดประวัติ นักธุรกิจชาวเยอรมันหายตัวปริศนา เคยตกเป็นข่าวเมื่อปี 2561 ภรรยาคนปัจจุบันขอร้องให้ปล่อยผ่าน ขอตามหาให้เจอก่อน
ยังตามหาอย่างต่อเนื่อง สำหรับการหายตัวไปอย่างเป็นปริศนาของ นายฮันส์ ปีเตอร์ แรลเตอร์ มัค (MR.HANS PETER RALTER MACK) อายุ 62 ปี นักธุรกิจชาวเยอรมัน ซึ่งก่อนหน้านี้มีรายงานว่า พบรถยนต์ของผู้สูญหายแล้ว แต่ยังไม่พบตัวนายฮันส์ ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ตำรวจเจอสัญญาณมือถือล่าสุดจากตะเข็บชายแดนสระแก้ว
อ่านข่าว - ชาวเยอรมันหายตัว 6 วันยังหาไม่พบ ล่าสุดเจอหลักฐานชิ้นสำคัญแถวตะเข็บชายแดน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ด้านเพจ บิ๊กเกรียน ได้รายงานข้อมูลเพิ่มว่า ในปี 2561 นายฮันส์ ที่หายตัวไปนั้น เคยถูกตำรวจจับกุมคดีที่เกี่ยวข้อกับการค้ามนุษย์ กรณีที่เจ้าตัวได้เคยซื้อบริการเด็กสาวอายุ 15 ปีซึ่งตำรวจสามารถบุกจับได้อย่างคาหนังคาเขาในบ้านพักหรูย่านพัทยา
เหตุการณ์ขระนั้น ในที่เกิดเหตุพบ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี นุ่งผ้าเช็ดตัวนั่งแอบอยู่ในห้องนอน เจ้าหน้าที่จึงคุมตัว นายฮันส์ พร้อมแม่เล้าที่เป็นผู้จัดหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ก่อนที่ล่าสุดเจ้าตัวจะหายตัวไปอย่างลึกลับ โดยที่มีพยานเห็นว่ามีผู้หญิง 2 คน สูงประมาณ 155-160 เซนติเมตร ผิวคล้ำ ๆ ลงจากรถที่ถูกจอดรถทิ้งไว้ และยังไม่ทรายว่านายฮันส์ ขณะนี้อยู่ที่ใด
กระทั่งล่าสุดที่สโมสรตำรวจช่วงเช้าวันนี้ พลตำรวจตรีธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 และชุดสืบสวนคลี่คลายคดีนี้ ได้เข้ามาประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าคดี ก่อนที่พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเดินทางเข้ามาติดตามความคืบหน้าคดีในภายหลัง
จากนั้น มูลนิธิวินวิน นำโดย น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิวินวิน ได้พา น.ส.แพท ภรรยาปัจจุบันของนายฮันส์ ปีเตอร์ อดีตภรรยาของนายฮันส์ ปีเตอร์ และ ลูกชายกับอดีตภรรยา 2 คน และเจ้าหน้าที่ของสถานทูตเยอรมัน เข้ามารอพบกับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
โดย น.ส.แพท เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุเธอนัดกับสามี ว่าจะมีลูกค้าไปดูที่แห่งหนึ่งในพัทยาในช่วงเวลาบ่ายโมง แต่ก่อนหน้านั้นเขาขอไปเจอลูกค้าคนสำคัญก่อน จนกระทั่งพอเวลาผ่านไปล่วงเลยไปจนถึงบ่ายสองโมงแล้ว เธอจึงพยายามโทรศัพท์ติดต่อไปหาสามีอีกครั้ง แต่ปรากฎว่าติดต่อไม่ได้ และเปิดปิดเครื่องสลับอยู่ตลอด ก่อนจะมีข้อความส่งกลับมาหาเธอว่า "อยู่กับลูกค้านะ เดี๋ยวโทรกลับ" แต่ที่ผ่านมายืนยันว่า สามีไม่เคยส่งข้อความมาหาในลักษณะแบบนี้ เธอจึงรออีกสักพัก
สุดท้ายก็ติดต่อไม่ได้ และทุกคนเองก็พยายามโทรหาอยู่เรื่อยๆ ก็โทรติดบ้าง ไม่ติดบ้าง จนช่วงเวลาประมาณ 4 ทุ่ม ก็มีข้อความส่งมาอีกว่า "วันนี้ฉันจะอยู่กับลูกค้านะ คนนี้สำคัญมาก ฉันต้องดีลกับเขา เซ็นสัญญาให้เสร็จ"
เธอจึงพยายามโทรติดต่ออีกเรื่อยๆ จนวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา ก็ยังติดต่อไม่ได้ จนมีข้อความสุดท้ายส่งมาอีกว่า "ฉันต้องอยู่กับลูกค้า และจะต้องไปกินข้าวกับลูกค้า" ก่อนที่หลังจากนั้น สามีก็ไม่ได้ส่งอะไรมาอีกเลย
ส่วนเรื่องที่ดินในพัทยาที่มีการซื้อ-ขายกันของสามีนั้น มีการพูดคุยกันจริง แต่ในเรื่องที่ดินในพื้นที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เขายังไม่ได้มาคุยเรื่องนี้เลย เพราะไม่ได้มีแผนจะขาย ส่วนตอนนี้ ยอมรับว่า เธอคิดว่ากลุ่มคนที่อุ้มสามีไป น่าจะรู้จักสามี แต่ในเรื่องธุรกิจคาดว่ารู้แค่บางส่วนเท่านั้น และเชื่อว่าสามีโดนจับตัวไปแน่ๆ เพราะสามีไม่เคยผิดนัด และเป็นคนตรงเวลาตลอด ทุกครั้งจะเป็นคนมาก่อนเวลา หรือถ้าหากมีปัญหาจริงๆ จะโทรมาบอกก่อน จะไม่ชอบให้ครอบครัวเป็นห่วง
โดยทางครอบครัว ไม่ทราบเลยว่า เกิดอะไรขึ้นกับสามี หรือว่าใครทำอะไรเขา เพราะเขาไม่เคยมีปัญหากับใคร และส่วนตัวก็ไม่เคนเห็นคนที่ชื่อโอราฟ ส่วนเรื่องเส้นทางการเงินที่พบว่าผิดปกตินั้น ยังไม่ทราบ และตอนนี้ยังขอไม่ลงรายละเอียด
ส่วนเรื่องสงสัยใครหรือไม่นั้น น.ส.แพท ระบุว่า ตอนนี้สงสัยคนในวิดีโอกล้องวงจรปิดคนที่อยู่กับสามีเป็นคนสุดท้าย แต่ก็ไม่ได้ไปกล่าวหาเขา นอกจากนี้ เธอยืนยันว่า ไม่ทราบความสัมพันธ์ระหว่างสามีกับนายหน้าขายที่ดินเลย รวมถึงเรื่องคดีค้ามนุษย์เมื่อปี 2561 นั้น เข้าใจแล้วตอนนี้ครอบครัวไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย
และอยากให้ทุกคนโฟกัสเรื่องการหาสามีก่อน พร้อมอยากบอกไปถึงคนที่อุ้มสามีไปว่า ต้องการอะไรให้มาบอก ช่วยเอาสามีกลับมาเถอะ ทุกคนเป็นห่วงมาก เรารอกันอยู่ และจะหาเขาให้เจอ โดยตอนนี้ทางครอบครัวยังหวังว่าสามียังมีชีวิตอยู่ และน่าจะอยู่ในประเทศไทย ทุกคนจะช่วยเขากลับบ้าน ส่วนเบาะแสล่าสุดก็คือเรื่องการพบรถ แต่ในส่วนข้อมูลที่พบสามีในพื้นที่สระแก้ว ยืนยีนว่า ไม่ใช่สามี เป็นแค่คนหน้าคล้าย