- 28 ก.ค. 2566
สน.ท่าข้าม รับแจ้งจากสายด่วน 199 ไฟไหม้บ้านไม้ริมน้ำ วอด 5 หลัง ย่านพุทธบูชา เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงจึงทำการระงับเหตุเอาไว้ได้
วันที่ 28 กรกฎาคม 2566 เวลา 10.07 น. ร้อยตำรวจเอก ถิรายุ วงษ์สิงห์ รอง สว.สอบสวน สน.ท่าข้าม รับแจ้งจากสายด่วน 199 มีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนใกล้เคียงโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ธนบุรี ถนน กาญจนาภิเษก แขวง ท่าข้าม เขต บางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสาน เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางขุนเทียน อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู และอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ( อปพร. เขตราษฎร์บูรณะ ) เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุ พบแสงเพลิงและกลุ่มควันเป็นจำนวนมาก บริเวณด้านหลังของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ถนนกาญจนาภิเษก ใกล้เคียงกับโรงเรียนสวนกุหลาบ ธนบุรี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงพร้อมกู้ภัย จำนวนมากต่างก็ขับรถดับเพลิงทั้งขนาดเล็กและใหญ่ วิ่งเข้าไปทางหมู่บ้านดังกล่าวแต่ทว่าหาทางเข้าที่เกิดเหตุไม่ได้เพราะด้านหลังหมู่บ้านเป็นกำแพงปิดกั้นระหว่างบ้านต้นเพลิงกับหมู่บ้านดังกล่าว เจ้าหน้าที่ต้องปีนกำแพงรั้วข้ามออกมาเพื่อมาระงับเหตุอย่างทุลักทุเล แล้วบางส่วนต้องวิ่งหาทางเข้าที่เกิดเหตุเป็นทางอื่น
แต่แล้วเมื่อวิ่งเข้ามาทางซอย พุทธบูชา 36 แยก 12 แล้วต้องเดินเท้าเลาะตามทางเดินริมคลองบางมด เข้าไปกว่า 50 เมตร จึงจะพบกับบ้านต้นเพลิง แต่แล้วก็ยังข้ามไประงับเหตุกันไม่ได้เพราะเหตุเกิดอยู่ตรงข้ามคลอง ต้องอาศัยเรือชาวบ้านในละแวกดังกล่าวช่วยกันลำเรียงเครื่องหาบหามลงเรือข้ามไป อาสาบางคนต้องกระโดดน้ำว่ายข้ามไปเพื่อช่วยระงับเหตุ ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ถึงจะเข้าไปวางสายดับเพลิงได้ในที่เกิดเหตุ
บ้านต้นเพลิงเป็นลักษณะบ้านไม้ 2 ชั้น ปลูกติดกันหลายหลัง แสงเพลิงและกลุ่มควันเกิดขึ้นบริเวณชั้นที่ 2 ภายในห้องพระ แล้วลุกลามไปติดบ้านข้างเคียงอีก 4 หลัง อย่างรวดเร็ว บนเนื้อที่ 1 ไร่กว่าๆ ตอนเกิดเหตุนั้นไม่มีคนอยู่บ้านทุกคนออกไปทำงานกันหมด
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงจึงทำการระงับเหตุเอาไว้ได้ และจากการตรวจสอบแล้วไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่วนบริเวณที่เกิดเหตุดังกล่าวนั้นเข้าออกได้ทางเดียวคือทางน้ำ รถยนต์ไม่สามารถเข้าถึงได้เพราะมีรั้วกำแพงหมู่บ้านปิดกั้นอยู่ จึงทำให้การช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความล่าช้า
จากการสอบถาม ประชาชนในพื้นที่บอกว่า ตอนแรกเห็นกลุ่มควันแล้วญาติก็มาเรียกให้ช่วยดับ แต่ก็ไม่ไหว มันโหมแรงมาก ไม่รู้สาเหตุเพราะต่างคนต่างออกไปทำมาหากินกัน บ้านนี้อยู่กัน 2 คน บ้านตนก็อยู่ 2 คน และเพื่อนบ้านข้างเคียงอีกคน บอกว่า ตนอยู่หน้าบ้าน แล้วพี่น้องมาตะโกนบอกว่าไฟไหม้บ้านพี่ชาย เพราะพื้นที่นี้เป็นบ้านพี่น้องกันหมด ปลูกในพื้นที่ดินเดียวกันไหม้ไปทั้งหมด 5 หลัง เนื้อที่ประมาณไร่กว่าๆ ตนก็เอาถังไปฉีดดับ จนน้ำยาหมดแล้วแต่ก็ยังดับไม่ได้ จึงไปเรียกให้คนมาช่วย ปกติบ้านนี้จะอยู่กัน 2 คน กับหลานชายเรียนอยู่ ม.1 ตอนเกิดเหตุไม่มีคนอยู่ออกไปข้างนอกกัน
เบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากสิ่งใดกันแน่ ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งถึงจะสรุปสาเหตุที่แท้จริงได้
ส่วนบริเวณที่เกิดเหตุดังกล่าวเป็นสถานที่ถูกปิดกั้นไม่สามารถเข้ามาระงับเหตุบนเส้นทางปกติได้ ต้องนำเครื่องหาบหามข้ามน้ำไประงับเหตุโดยใช้เรือพายจากชาวบ้านในละแวกดังกล่าวช่วยกันลำเรียงอุปกรณ์ข้ามไป และต้องเสียเวลานานนับชั่วโมงในการวิ่งหาทางเข้าจนเพลิงได้ลุกลามไปติดบ้านหลังอื่นจนกระทั่งเป็นวงกว้างและยากต่อการควบคุม จึงทำให้ต้องใช้เวลานานในการระงับเหตุ ตรงนี้ต้องวอนขอให้หน่วยงานผู้เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยว่าจะพอมีวิธีไหนบ้างที่จะขอความอนุเคราะห์ให้กับทางหมู่บ้านช่วยอะลุ่มอล่วยในการเปิดรั้วกำแพงออกเผื่อเวลามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกเจ้าหน้าที่ดับเพลิง จะได้เข้าไประงับเหตุให้ได้อย่างทันท่วงที