- 22 ก.ย. 2566
รองนพศิลป์ ยืนยันผลตรวจดีเอ็นเอ 2 ศพเด็กในพื้นที่บางซื่อตรงกับ ไอ้เอ็ม-เจษฎา เตรียมออกหมายจับ เจษฎา ดำเนินคดีต่อไป ด้านอดีตภรรยาคนอื่นเผยสินัยเอ็ม ส่องศักดิ์ พ่อโหด
ความคืบหน้าล่าสุดที่สน.บางเขน เมื่อเวลา 11.21 น. วันที่ 22 ก.ย. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.เปิดเผยว่า ทาง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.ได้แจ้งชุดพนักงานสอบสวนว่า ผลการตรวจ ดีเอ็นเอ ของ 2 ศพที่เจอที่บางซื่อในปี 2556 และ 2557 นั้น ตรงกันกับนายส่องศักดิ์และกับ น.ส.เจษฎา มีความสัมพันธ์เป็นพ่อแม่ลูกกันจริง ตามการคำรับสารภาพของ น.ส.เจษฎา ว่ามีการนำศพไปทิ้ง 2 ศพดังกล่าว ทางพนักงานสอบสวนจะดำเนินการออกหมายจับ น.ส.เจษฎา โดยพนักงานสอบสวนจะไปรับผลการตรวจช่วงบ่ายวันนี้ ที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อรวบรวมหลักฐานเสนอศาลอาญาขอออกหมายจับต่อไป สำหรับสาเหตุเสียชีวิตของเด็กทั้งสองคนแพทย์ชันสูตรได้ออกผลชันสูตรตั้งแต่ปี 2556 และ 2557 แล้วว่าเกิดจาก กะโหลกศีรษะมีบาดแผล และระบบการหายใจล้มเหลว
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า ในส่วนของเด็ก 4 ขวบที่ถูกทำร้าย มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าตัวน้องตั้งแต่แรกเกิดมีสภาพสมบูรณ์ ปกติ พนักงานสอบสวนจะต้องไปสอบแรกเริ่มตั้งแต่โรงพยาบาลและครอบครัวที่เป็นผู้เลี้ยงน้องมาว่าร่างกายของเขามีความปกติ กระทั่งพ่อแม่นำน้องกลับมาเลี้ยงพบว่าเด็กมีสภาพปากแหว่ง โดยอ้างว่าเกิดจากเชื้อรากัด ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฎพนักงานสอบสวนจะต้องสอบสวนข้อเท็จจริงให้เสร็จสิ้น ในการดำเนินคดีค้ามนุษย์จะต้องหาพยานหลักฐานในกรอบของกฎหมาย ขณะนี้เด็กอยู่ในความคุ้มครองของ พม.
ส่วนตัวตนรู้สึกสะท้อนใจมากกับสิ่งที่ผู้ต้องหาทำกับลูก เด็กต้องโตขึ้นมาปากแหว่ง แต่ได้รับแจ้งจาก กัน จอมพลัง ว่ามีแพทย์รับการรักษาน้องแล้ว ในการเรียกรับผลประโยชน์จากความพิการของเด็ก เข้าข่ายการค้ามนุษย์ พนักงานสอบสวนต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน โดยมีหลักฐานการโพสต์ขอรับบริจาคของนายส่องศักดิ์ และน.ส.เจษฎา ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค. ที่ผ่านมามีการโอนเงินทั้งหมด 17 รายการ รวม เป็นเงิน 3,500 บาท โดยนำเงินที่ได้ไปเลี้ยงดูชีวิตตัวเอง
รอง ผบช.น.กล่าวว่า สำหรับภรรยารายที่ 5 ที่พึ่งตรวจพบนั้น ได้เลิกกันกับนายส่องศักดิ์มานานแล้ว และไม่มีบุตรด้วยกัน โดยฝ่ายหญิงมีครอบครัวใหม่แล้ว ขออนุญาตปกปิดชื่อของภรรยา โดยตำรวจจะต้องเชิญมาสอบให้เห็นถึงพฤติกรรมของตัวผู้ต้องหาเพื่อประโยชน์ต่อรูปคดี
พล.ต.ต.นพศิลป์กล่าวว่า สำหรับการตรวจค้นอพาร์ตเมน์ ซอยพหลโยธิน 48 ในช่วงบ่ายวันนี้ หลังจากที่นายส่องศักดิ์และ น.ส.สุนัน ทำการโบกปูนลูกที่จังหวัดกำแพงเพชร ในช่วงกรกฎาคม ผู้ต้องหาทั้งสองได้ย้ายถิ่นที่อยู่จาก เอสเค อพาร์ตเมนต์ ไปอยู่เช่ารายเดือน ซอยพหลโยธิน 48 เจ้าหน้าที่จึงต้องตามหาพยานหลักฐานคดีเพิ่มเติม เพื่อหาพยายามวัตถุและอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ทำร้ายน้องว่ายังมีหลงเหลืออยู่หรือไม่
พล.ต.ต.นพศิลป์กล่าวว่า จากแนวทางของผบช.นได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รองผบช.น. ได้พิจารณาในข้อกฎหมายทั้งหมดว่า พฤติกรรมของผู้ต้องหามีเจตนาการฆ่าผู้อื่นหรือไม่ โดยพล.ต.ต.สมควรกำลังพิจารณาว่า พฤติกรรมเข้าข่ายหรือไม่ ขณะเดียวกัน พนักงานสอบสวนส่งตัวน.ส.เจษฎาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลว่า ตามคำให้การที่ถูกนายส่องศักดิ์ทำร้าย ถูกวัตถุใดทำร้ายเพื่อให้สอดคล้องกับความเห็นของทางแพทย์
พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 กล่าวว่า ขณะนี้พยานหลักฐานที่รวบรวมได้นำไปสู่การแจ้งข้อหาในความผิดฐาน ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 มีโทษจำคุก 3-15 ปี และข้อหาทำลายพยานหลักฐาน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 184 โทษจำคุก 5 ปี และข้อหาซ่อนเร้นอำพรางศพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 199 และทำผิดป.วิ อาญา ทำลายศพที่ต้องชันสูตรพลิกศพ พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมข้อเท็จจริงและออกหมายจับหลังจากที่ได้รับผลการตรวจ DNA แล้ว ส่วนกระดูกที่พบทั้งหมดที่บริเวณปากซอยพหลโยธิน 56 คาดว่า จะทราบผลเร็วสุดในช่วงวันจันทร์หรืออังคารหน้า เพื่อตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงกับตัว น.ส.เจษฎาและนายส่องศักดิ์หรือไม่
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.เปิดเผยว่า ในส่วนของการกระจายชุดสืบสวนลงพื้นที่ตามคำให้การของตัวผู้ต้องหา ได้ขอความร่วมมือกับอดีตภรรยาทุกคนของนายส่องศักดิ์ เพื่อขอข้อมูล เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีสำคัญ ข้อมูลที่ได้มาตรงกันว่าตัวผู้ต้องหามีพฤติกรรมก้าวร้าว
อดีตภรรยาบางคนที่มีลูกกับนายส่องศักดิ์ระบุว่า นายส่องศักดิ์ไม่เคยดูแลส่งเสีย โดยฝ่ายหญิงจะต้องเป็นคนทำงานหาเลี้ยง ส่วนนายส่องศักดิ์รอใช้เงิน แต่ไม่มีพฤติกรรมเล่นการพนัน และเสพยาเสพติด