- 22 ก.ย. 2566
ล่าสุดจากกรณีรถเมล์ทิ้งเด็กเป็นลมไว้ข้างถนน ล่าสุด กรมการขนส่งทางบกได้ทราบข่าวแล้วและได้เรียกตัวคนขับรถเมล์และกระเป๋ารถเมล์คันดังกล่าวมารับโทษแล้ว
จากกรณีเรื่องราวที่สังคมกำลังเดือดดาลอย่างหนัก กับเหตุการณ์ รถเมล์ทิ้งเด็กเป็นลมไว้ข้างถนน โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 16 ก.ย. 66 ที่ผ่านมาช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. ก่อนที่เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 จะนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาแฉ
โดยเริ่มจากผู้ใช้รถเมล์คันเดียวกับเด็กคนดังกล่าวโพสต์เล่าว่า "คนเรามันเป็นขนาดนี้เลยหรอคะ เมื่อตอนช่วงหกโมงเย็นวันนี้ มีรถเมล์สาย 75 ได้ทิ้งเด็กนักเรียนชาย ม.ต้น ที่กำลังเป็นลมสลบลงบนพื้นริมฟุตบาทถนน ตรงป้ายรถเมล์ข้าง สน.วันพระยาไกร
ซึ่งเราได้อยู่ในเหตุการณ์ตกใจมากกกก ว่าทำไมปล่อยน้องที่เป็นลมมานอนกับพื้นแบบนี้ เราจึงเข้าไปดูใกล้ๆและได้ช่วยดึงขึ้นมาจากริมถนน ซึ่งอันตรายมากๆ หลังจากนั้นน้องก็ได้สติและเราก็ได้หาน้ำและยาดมให้เบื้องต้น สักพักจึงได้ถามน้องว่าเป็นอะไร น้องแจ้งว่าไม่สบายเวียนหัวมาก แล้วก็ถามต่อว่าน้องมาจากไหนและกำลังจะไปไหนน้องก็แจ้งว่ามาจากยานาวาและกำลังกลับบ้านที่ประชาอุทิศ 27 และก็ถามต่อว่าให้โทรหาพ่อกับแม่ให้มั้ย น้องบอกว่าแม่ผมเสียแล้ว ส่วนพ่อทำงาน สักพักก็ได้มีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาหาน้องและได้อธิบายว่า อยู่บนรถเมล์คันเดียวกัน พี่เขาแจ้งว่า รถเมล์มา แออัดมากกทำให้น้องเป็นลม และกระเป๋ารถเมล์ได้หิ้วน้องลงมานอนกับพื้น ซึ่งคนบนรถเมล์ก็ตกใจกันอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้มีใครลงมาด้วย ซึ่งพี่ผู้หญิงเขาได้ลงจากรถเมล์ป้ายข้างหน้าและเดินมาหาน้องเพราะกลัวว่าเป็นอะไรไป พอน้องดีขึ้นแล้วพี่เขาก็เลยอาสาไปส่งที่บ้าน!!!
ประเด็นที่อยากทราบ ทำไมกระเป๋ารถเมล์ ทำไมทำแบบนี้ค่ะ ถ้าน้องเขาเป็นอะไรไปจะรับผิดชอบได้มั้ย ถ้าเป็นลูกคุณจะทำแบบนี้มั้ยย ปล.ไม่มีรูปทะเบียนรถเมล์ ถ่ายไม่ทัน ไม่มีรูปตอนน้องนอนกับพื้นค่ะ ถ่ายไม่ทันเพราะตกใจ"
หลังจากนั้นก็มีชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์แสดงความคิดเห็น ขอบคุณน้ำใจสาวรายนี้ที่ไม่นิ่งเฉยต่อเหตุการณ์ลงไปช่วยเด็กชายรายนี้ พร้อมกับตำหนิการกระทำของรถเมล์สายดังกล่าว ว่าใจดำเป็นอย่างมากและขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินการสอบ
ล่าสุดวันที่ 22 กันยายน 2566 มีรายงานว่ากรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้ทราบเรื่องและทำการลงโทษคนขับและกระเป๋ารถเมล์คันดังกล่าว กรมการขนส่งทางบก โดยกองตรวจการขนส่งทางบก ได้เรียกผู้ขับรถโดยสารคันดังกล่าว คือ นายอุกกิม ลาภจิตร และพนักงานเก็บค่าโดยสาร คือ นางละม่อม พิพ่วนนอก มารายงานตัวเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง โดยพนักงานเก็บค่าโดยสารได้ให้การว่าเด็กชายที่เป็นลมขึ้นรถมาจากป้าย หน้าห้างโรบินสัน บางรัก จะไปลงที่ซอยประชาอุทิศ 27
โดยขณะนั้นการจราจรติดขัดและคนบนรถค่อนข้างแน่น เมื่อมาถึงบริเวณห้างเอเชียทีค เด็กชายได้เข้ามาบอกกับตนว่ารู้สึกเวียนหัวจะอาเจียนขอลงจากรถ จึงแจ้งผู้ขับรถให้จอดป้าย โดยหลังจากเด็กชายลงจากรถแล้วได้ทรุดตัวลงนั่งที่ริมฟุตปาธ ยอมรับว่าไม่ได้ให้ความช่วยเหลือ เนื่องจากคิดว่าไม่เป็นอะไรมากเพียงต้องการอาเจียนเท่านั้น ส่วนผู้ขับรถให้การว่าเมื่อเด็กชายลงจากรถแล้วก็ได้ขับรถออกไปทันที เนื่องจากขณะนั้นเป็นช่วงชั่วโมงเร่งด่วนจึงไม่ได้หยุดรถให้ความช่วยเหลือ
กองตรวจการขนส่งทางบก พิจารณาแล้ว เห็นว่า การกระทำของผู้ขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสาร เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ฐานไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดว่าด้วยความปลอดภัยในการขนส่งตามที่กำหนดในกฎกระทรวง (มาตรา 102(4)) ที่กำหนดให้ผู้ประจำรถจะต้องดูแลผู้โดยสารให้ได้รับความปลอดภัยตลอดเวลาที่อยู่ในระหว่างการโดยสาร กรณีที่เกิดอุบัติภัยใดๆ ขึ้นจะต้องให้ความช่วยเหลือให้พ้นจากอุบัติภัยนั้นก่อน จึงได้ดำเนินการ ดังนี้
1.ลงโทษเปรียบเทียบปรับผู้ขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสาร คนละ 1,000 บาท (รวมเป็นเงิน 2,000 บาท)
2.ตัดคะแนนความประพฤติผู้ขับรถ 10 คะแนน
3.ส่งผู้ขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสารเข้ารับการอบรมจิตสำนึกความปลอดภัยและการให้บริการประชาชน เป็นเวลา 3 ชั่วโมง และกำชับให้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก