เคาะแล้ว ต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉินสามจังหวัดชายแดนใต้ อีก 3 เดือน เพิ่ม อ.ศรีสาคร ด้วย

วันที่ 11 ตุลาคม 2566 มีรายงาน เมื่อเวลา 15.00น. ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน (กบฉ.) แถลง เคาะต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ออกไปอีก 3 เดือน รวมถึงปรับให้อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส กลับมาใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีกครั้ง

 

 

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เผยมติว่าการประชุม กบฉ.ว่า หลังจาก 1 เดือนที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้ดูแลเรื่องการพิจารณาเรื่องประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในจังหวัดชายแดนภาคใต้จึงได้พิจารณาถี่ถ้วนและให้ส่วนราชการ ได้แก่ กระทรวงมหาดไทยไปรับฟังความเห็นประชาชน รวมถึงนำข้อมูลและความเห็นจาก สมช. และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) มาประกอบการพิจารณา

สถิติตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน พบว่าความรุนแรงของสถานการณ์ลดลง ในอดีตมีบางปีมีเหตุการณ์สูงกว่า 100 ครั้ง แต่สถานการณ์โควิด-19 สถิติลดลงเหลือ 70 กว่าครั้ง ส่วนปี 66 มีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำคือ ประมาณ 100 ครั้ง จึงนำข้อมูลเหล่านี้มาประกอบการพิจารณา

ที่ประชุม กบฉ.จึงมีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ออกไปอีก 3 เดือน ระหว่างวันที่ 20 ต.ค.2566 - 19 ม.ค.2567 แต่มีมติให้ปรับลด 3 อำเภอ ที่ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงแทน ได้แก่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี และอ.ยี่งอ จ.นราธิวาส

รวมถึงมีมติปรับให้ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส กลับมาใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีกครั้ง เนื่องจากสถิติความรุนแรงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะช่วง 5 ปีหลังนี้ โดยจะนำมติ กบฉ.เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 16 ต.ค.นี้

ส่วนการแต่งตั้ง เลขาธิการ สมช.แทนผู้ที่เกษียณไปนั้น ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ เพราะนายกฯยังไม่ได้มอบหมายว่าจะให้รองนายกฯคนใดดูแลกำกับของ สมช. และการแต่งตั้งเลขาธิการ สมช. ต้องรอนายกฯ ในฐานะประธานสมช.เรียกประชุมก่อน