- 15 ต.ค. 2566
นาทีชีวิต อุ๋ย แรงงานไทยในอิสราเอล ถ่ายไว้ช่วงหนีออกจากโรงงาน เพื่อไปรับความช่วยเหลือจากทหารอิสราเอล หลังกลุ่มฮามาสปิดล้อมโรงงาน
15ต.ค.66 กลุ่มญาติและครอบครัวของแรงงานไทยในอิสราเอล มาเตรียมรอรับบุตรหลาน และสามีของตัวเอง โดยแรงงานไทยกว่า 90 ชีวิต อยู่ระหว่างการเดินทางกลับมายังประเทศไทย มุ่งหน้าจากสนามบินอู่ตะเภา จ.ระยอง มาที่โรงแรม SC PARK
โดยมีครอบครัวหนึ่ง คือครอบครัวของ น.ส.มยุรี บุญใหญ่ อายุ 40 ปี ชาว ต.นาหนองทุ่ม อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ซึ่งเดินทางมาพร้อมบิดาตัวเอง (คุณตา) และบุตรชายอายุ 11 ปี โดย น.ส.มยุรี ประกอบอาชีพทำไร่นา ปลูกอ้อย เลี้ยงตั๊กแตน ได้เดินทางมาจาก จ.ชัยภูมิ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (14 ต.ค.) และนอนรอข้ามคืน เพื่อรอรับนายสมชาย บุตรศรี หรือ อุ๋ย ซึ่งเป็นสามี อายุ 45 ปี ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ เดินทางกลับบ้านที่จังหวัดชัยภูมิด้วยกัน
น.ส.มยุรี กล่าวว่า สามีเดินทางไปทำงานที่โรงงานเกี่ยวกับเกษตรกรรมที่อิสราเอลตั้งแต่ปี 2561 เป็นการไปอย่างถูกกฎหมายตามสัญญา 5 ปี ของกระทรวงแรงงาน ซึ่งโรงงานที่สามีทำอยู่นั้น อยู่ใกล้ค่ายทหารบริเวณฉนวนกาซาโดยสามีจะมีหน้าที่ในการเก็บผลไม่ต่าง ๆ เช่น อะโวคาโด มันฝรั่ง ส้มโอ มะนาว
จากการพูดคุยกับสามีก็ได้มีการตอบกลับมาว่าปลอดภัยดี ไม่ต้องเป็นห่วง ทั้งยังมีการส่งคลิปวิดีโอบางส่วนมาให้ดูว่ามีความเป็นอยู่อย่างไรในขณะนั้น พร้อมกับล่าสุดเมื่อคืนนี้ สามีเล่าว่าในตอนนั้นมีกลุ่มติดอาวุธฮามาส จำนวน 4-5 ราย ได้มีการล้อมโรงงานของสามีและเพื่อนๆกว่า 30 ราย โดยกลุ่มฮามาสได้มีการใช้ด้ามปืนกระทุ้งโดยรอบของโรงงาน เพื่อจะควบคุมตัวแรงงานต่างชาติไป แต่ปรากฏว่าโรงงานค่อนข้างมีความปลอดภัย มีการล็อกประตูแน่นหนา ทำให้กลุ่มฮามาสไม่สามารถเข้ามาควบคุมตัวแรงงานต่างชาติได้
ต่อมากลุ่มของสามีจึงได้ช่วยกันติดต่อไปยังทางการของอิสราเอล ทำให้ทหารอิสราเอลได้เข้ามาควบคุมเหตุการณ์และให้ความช่วยเหลือแรงงานชาวต่างชาติภายในโรงงาน อพยพไปยังโรงเรียนแห่งหนึ่งที่มีการจัดเตรียมไว้สำหรับเป็นศูนย์อพยพ
อีกทั้งทางสามีได้บอกด้วยว่าทหารอิสราเอลมีการให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่มากๆ มีการจัดเตรียมอาหารน้ำดื่มและรักษาพยาบาล อย่างไรก็ตามในบรรดาคนไทยที่อยู่ในโรงงานดังกล่าวเดียวกับสามีตน ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเป็นอันตรายแก่ชีวิตแต่อย่างใด ทุกคนปลอดภัย