- 19 พ.ย. 2566
คอมเมนต์สนั่น เกิดข้อสงสัยเพียบ กรณี การรถไฟฯ เปิดหลักเกณฑ์การจองตั๋วล่วงหน้า ขานรับนโยบายกระทรวงคมนาคม เริ่มให้บริการวันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป
ในโลกออนไลน์เกิดเป็นกระแสเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การจองตั๋วรถไฟล่วงหน้า กรณี การรถไฟแห่งประเทศไทย ประกาศหลักเกณฑ์การจองตั๋วล่วงหน้า สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการที่จะจองตั๋วเดินทางรถไฟ แต่กลับมีบางรายละเอียดข้อกำหนด ที่ทำเอาหลายๆเกิดข้อสงสัยและความงงว่า จะต้องจองยังไง
โดย นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มอบนโยบายให้การรถไฟฯ เร่งเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการในทุกๆ ด้าน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางสูงสุดแก่พี่น้องประชาชน การรถไฟฯ ได้น้อมรับนโยบายนำมาพัฒนาการให้บริการ โดยล่าสุดได้ขยายเวลาเปิดจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าจากเดิม 30 วัน เพิ่มสูงสุดเป็น 90 วัน
เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสจองซื้อตั๋วโดยสารล่วงหน้าได้ยาวนานขึ้น เริ่มนำร่องขบวนรถชุด 115 คัน จำนวน 8 ขบวน ในเส้นทางที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั้งสายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ และสายใต้ ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป มีรายละเอียด ดังนี้
สายเหนือ จำนวน 2 ขบวน
- เที่ยวไป : ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 9 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – สถานีเชียงใหม่
- เที่ยวกลับ : ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 10 สถานีเชียงใหม่ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
สายตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 4 ขบวน
- เที่ยวไป : ขบวนด่วนพิเศษที่ 23 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – สถานีอุบลราชธานี
- เที่ยวกลับ : ขบวนด่วนพิเศษที่ 24 สถานีอุบลราชธานี – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
- เที่ยวไป : ขบวนด่วนพิเศษที่ 25 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – สถานีหนองคาย
- เที่ยวกลับ : ขบวนด่วนพิเศษที่ 26 สถานีหนองคาย – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
สายใต้ จำนวน 2 ขบวน
- เที่ยวไป : ขบวนด่วนพิเศษที่ 31 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – สถานีหาดใหญ่
- เที่ยวกลับ : ขบวนด่วนพิเศษที่ 32 สถานีหาดใหญ่ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
นายเอกรัช กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าระยะเวลา 90 วัน การรถไฟฯได้กำหนดหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
1. ผู้โดยสารที่จองตั๋วเดินทางน้อยกว่าร้อยละ 25 ของระยะทางขบวนรถ จองตั๋วล่วงหน้าได้ 1 วัน
2. ผู้โดยสารที่จองตั๋วเดินทาง ตั้งแต่ร้อยละ 25 แต่ไม่ถึง 60ของระยะทางขบวนรถ จองตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 30 วัน
3. ผู้โดยสารที่จองตั๋วเดินทางตั้งแต่ร้อยละ 60 ของระยะทางขบวนรถขึ้นไป จองตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 90 วัน ซึ่งกำหนดวันข้างต้นให้รวมถึงการเปลี่ยนแปลงการเดินทางด้วย
ตัวอย่างเช่น
สายใต้
หากผู้โดยสารเริ่มต้นการเดินทางจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ไปจนถึงสถานีหัวหิน เป็นการจองตั๋วเดินทางน้อยกว่าร้อยละ 25 ของระยะทางขบวนรถ จะสามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 1 วัน หากระยะทางเกินจากนั้น ไปจนถึงสถานีชุมพร สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 30 วัน และผู้โดยสารที่เดินทางตั้งแต่สถานีสุราษฎร์ธานีเป็นต้นไป สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 90 วัน
สายเหนือ
หากผู้โดยสารเริ่มต้นการเดินทางจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ไปจนถึงสถานีลพบุรี เป็นการจองตั๋วเดินทางน้อยกว่าร้อยละ 25 ของระยะทางขบวนรถ ซึ่งจะสามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 1 วัน หากระยะทางเกินจากนั้น ไปจนถึงสถานีพิษณุโลก สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 30 วัน ส่วนผู้โดยสารที่เดินทางตั้งแต่สถานีศิลาอาสน์อุตรดิตถ์เป็นต้นไป สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 90 วัน
สายตะวันออกเฉียงเหนือเส้นหนองคาย
หากผู้โดยสารเริ่มต้นการเดินทางจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ไปจนถึงชุมทางแก่งคอย เป็นการจองตั๋วเดินทางน้อยกว่าร้อยละ 25 ของระยะทางขบวนรถ ซึ่งจะสามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 1 วัน หากระยะทางเกินจากนั้น ไปจนถึงสถานีชุมทางบัวใหญ่ สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 30 วัน และผู้โดยสารที่เดินทางตั้งแต่สถานีเมืองพลเป็นต้นไป สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 90 วัน
สายตะวันออกเฉียงเหนือ เส้นอุบลราชธานี
หากผู้โดยสารเริ่มต้นการเดินทางจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ไปจนถึงสถานีสระบุรี เป็นการจองตั๋วเดินทางน้อยกว่าร้อยละ 25 ของระยะทางขบวนรถ ซึ่งจะสามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 1 วัน หากระยะทางเกินจากนั้น ไปจนถึงสถานีนครราชสีมา สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 30 วัน และผู้โดยสารที่เดินทางตั้งแต่สถานีลำปลายมาศเป็นต้นไป สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ 90 วัน
ทั้งนี้ สามารถจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่ง หรือระบบจองตั๋วโดยสารออนไลน์ D-Ticket สามารถสอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย