จับอีก 2รถบรรทุกพ่วง22ล้อ นครปฐม น้ำหนักเกิน ขนดินจัดเต็มตั้งแต่ตี4 หนี ตร.

นครปฐมอีกแล้ว จับ2รถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ น้ำหนักเกิน แอบวิ่งกันเช้าตรู่ ตี4-5หนีตำรวจหนีด่านชั่งน้ำหนัก คนขับสารภาพ ได้ค่าจ้างเที่ยวละ250 บาท

  กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ทำการจับกุม นายสมชายอายุ 64 ปี และ นายพุทธาอายุ 65 ปี 2คนขับรถบรรทุก 22 ล้อ จำนวน 2 คัน ลักลอบบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ทั้งสองรายสารภาพใช้เส้นทางรองเลี่ยงด่านชั่งลักลอบแบกดินน้ำหนักเกินกฎหมายในช่วงเช้าตรู่
 

จับอีก 2รถบรรทุกพ่วง22ล้อ นครปฐม น้ำหนักเกิน ขนดินจัดเต็มตั้งแต่ตี4 หนี ตร.
(โดยน้ำหนักตามที่กฎหมายกำหนดให้ไม่เกิน 50,500 กิโลกรัม) รายละเอียด ดังนี้


- รถคันแรกที่นายสมชายเป็นผู้ขับขี่ มีน้ำหนักรวม 60,800 กิโลกรัม (เกินกว่าที่กำหนด 10,300 กิโลกรัม


- รถคันที่สองที่นายพุทธาเป็นผู้ขับขี่ มีน้ำหนักรวม 59,950 กิโลกรัม (เกินกว่าที่กำกนด 9,450 กิโลกรัม)

จับอีก 2รถบรรทุกพ่วง22ล้อ นครปฐม น้ำหนักเกิน ขนดินจัดเต็มตั้งแต่ตี4 หนี ตร.

พร้อมตรวจยึดของกลาง รถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว จำนวน 2 คัน ที่บรรทุกดินที่มีน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดพฤติการณ์การจับกุม ตามนโยบายของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางที่ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงออกกวดขันปราบปรามรถบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดบนทางหลวงแผ่นดินอย่างจริงจัง

จับอีก 2รถบรรทุกพ่วง22ล้อ นครปฐม น้ำหนักเกิน ขนดินจัดเต็มตั้งแต่ตี4 หนี ตร.

จนเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2566  เวลาประมาณ 05.30 น. ขณะที่ เจ้าหน้าตำรวจทางหลวงนครปฐม (ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.) ได้ออกตรวจจนมาถึงบริเวณทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ทางหลวงชนบทหมายเลข 3233 กิโลเมตรที่ 16 ตำบลบ้านหลวง อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม (ซึ่งเป็นถนนสายรองที่ตัดผ่านพื้นที่ชุมชน)

ได้พบรถบรรทุกพ่วงส่วนบุคคล 22 ล้อ จำนวน 2 คัน วิ่งมาบนถนนลักษณะมีการบรรทุกสิ่งของที่มีน้ำหนักจำนวนมาก และใช้ความเร็วค่อนข้างสูง เจ้าหน้าที่จึงขับรถวิทยุตำรวจทางหลวงประกบหน้าหลังรถบรรทุกพ่วงทั้ง 2 คัน และเรียกให้หยุดรถเพื่อขอตรวจสอบ
 
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง สามารถหยุดรถบรรทุกพ่วงทั้ง 2 คัน ได้ ทราบชื่อผู้ขับขี่รถบรรทุกพ่วงทั้ง 2 คัน คือ นายสมชาย (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี และ นายพุทธา (สงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงได้ปีนขึ้นไปบนรถบรรทุกพ่วงเพื่อตรวจสอบสิ่งของที่บรรทุกมา พบว่าเป็นดินปริมาณมาก

จับอีก 2รถบรรทุกพ่วง22ล้อ นครปฐม น้ำหนักเกิน ขนดินจัดเต็มตั้งแต่ตี4 หนี ตร.

 

จากการคาดการณ์เชื่อว่ารถบรรทุกพ่วงทั้ง 2 คัน บรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงได้ ประสานเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงสถานีตรวจสอบน้ำหนักนครชัยศรี ต.ท่าตำหนัก อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เพื่อนำเครื่องชั่งน้ำหนักเคลื่อนที่ (Spot Check) มาตรวจสอบน้ำหนักรถบรรทุกคันดังกล่าว พบว่า

 

รถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ที่ นายสมชายฯ ขับขี่มา มีน้ำหนักรวม 60,800 กิโลกรัม (เกินกว่าที่กำหนด 10,300 กิโลกรัม) และ รถบรรทุกพ่วงคันที่สองที่นายพุทธาฯขับขี่มา มีน้ำหนักรวม 59,950 กิโลกรัม (เกินกว่าที่กำหนด 9,450 กิโลกรัม)

จากการสอบถาม นายสมชาย และ นายพุทธา ทั้งสองได้ให้การรับสารภาพว่า ตนเองเป็นลูกจ้างของบริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่นครปฐม โดยรับเงินเป็นรายวัน 250 บาท/เที่ยว จากการสอบถามสิ่งของที่บรรทุกมาในรถ ผู้ต้องหาแจ้งว่าเป็นดิน โดยรับมาจากบ่อดินในพื้นที่ อ.ดอนตูม จ.นครปฐม กำลังจะเอาไปส่งให้ลูกค้าที่บ่อปลาในพื้นที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยรู้อยู่แล้วว่าดินที่ตนเองบรรทุกมามีน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

จับอีก 2รถบรรทุกพ่วง22ล้อ นครปฐม น้ำหนักเกิน ขนดินจัดเต็มตั้งแต่ตี4 หนี ตร.

จึงเลือกใช้เส้นทางรองที่เป็นทางหลวงชนบท เพื่อหลีกเลี่ยงด่านชั่งน้ำหนัก และเลือกที่จะลักลอบบรรทุกน้ำหนักเกินในช่วงเวลาประมาณ 04.00-05.00 น. เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง

 

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบว่า “ใช้ยานพาหนะที่มีน้ำหนักบรรทุกเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดมาใช้บนทางหลวง” (พ.ร.บ.ทางหลวง ม.61, ม.73/2 และประกาศของผู้อำนวยการทางหลวงแผ่นดิน ลงวันที่ 22 ธ.ค.2548 เรื่องห้ามใช้ยานพาหนะที่มีน้ำหนัก น้ำหนักบรรทุก หรือน้ำหนักลงเพลาเกินกว่าที่ได้กำหนดฯ) จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองรายดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อม ตรวจยึดรถบรรทุกพ่วงทั้ง 2 คัน และดินของที่บรรทุกมาไว้เป็นของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรดอนตูม อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป