- 19 ธ.ค. 2566
แม่บ้านประจำตึก ส่องานเข้าซะแล้ว ล่าสุดข้อมูลจาก คนในแมนชั่น ยืนยัน หนุ่มเมาอาละวาดทุบห้องนิสิตสาว ป.เอก แท้จริง คือ สามีของผู้จัดการอาคาร
กรณีการเสียชีวิตของ "น้องเฟิร์น"น.ส.อาภาพร นักศึกษา ป.เอก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หลังถูกหนุ่มเมาพยายามพังประตู จนตัวเธอตกใจ ปีนหนีหลังห้องจนพลัดตกชั้น 6 เสียชีวิต ล่าสุดเกิดประเด็นสำคัญน่าสงสัยเพิ่มขึ้นมาอีก เมื่อมีข้อมูลเบื้องลึกว่าแท้จริงแล้ว หนุ่มเมาคนก่อเหตุ คือ สามีของ ผจก.แมนชั่น ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ แม่บ้านดูแลตึก ได้ออกยืนยันอย่างหนักแน่นต่อหน้าสื่อว่า คนก่อเหตุไม่ใช่สามีผู้จัดการอาคารตามที่ออกข่าวไปก่อนหน้านี้ เป็นเพียงแค่ผู้เช่าปกติทั่วไป
ก่อนหน้านี้ นางสา แม่บ้านประจำตึกแมนชั่น กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุเป็นผู้เช่า ไม่ใช่สามีผู้จัดการอาคารตามที่เป็นข่าว ตอนนี้เจ้าตัวรู้สึกสำนึกผิดกับเหตุที่เกิดขึ้น ถึงกับร้องไห้และไปจุดธูปขอขมาในเช้าวันถัดมา หลังเกิดเรื่องเจ้าของอาคารสั่งย้ายออกทันที ไม่ใช่เป็นการช่วยเหลือให้หลบหนี แต่เพราะถือเป็นบุคคลอันตราย
ปกติเขาไม่ใช่คนอารมณ์รุนแรง แต่คงจะมึนเมามาก จนเกิดเรื่องขึ้น โดยตอนที่เขาโทรศัพท์หาตน ก็ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุแบบนี้ ตนก็เพียงบอกรูปพรรณสันฐานของรถไปเท่านั้น ไม่ได้บอกเลขทะเบียนไป ทั้งนี้ ฝ่ายอาคารก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะช่วยเหลือเยียวยาด้านค่าทำศพให้ ส่วนหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด ยืนยันว่ามีครบถ้วนและได้มอบให้ตำรวจไปหมดแล้ว
และอัปเดตล่าสุด วันที่ 19 ธ.ค.66 ข้อมูลเพิ่มเติมจากทาง สายไหมต้องรอด ซึ่งเป็นผู้ที่รับเรื่องร้องเรียนจากพ่อของ นิสิตสาว ป.เอก ที่พลัดตกจากอาคารชั้น 6 ของแมนชั่นจนเสียชีวิต เปิดเผยว่า
อ้าว! คนในแมนชั่นแจ้งมา"สมมาตร"คนเคาะห้อง น้องเฟิร์น นศ.ป เอก คือผัวของปู ผจก.แมนชั่นไม่ใช่คนเช่าห้องตามที่ป้าแม่บ้าน กล่าวอ้าง!
จากข้อมูลล่าสุดนั้น แน่นอนไม่ตรงกับคำให้สัมภาษณ์ของป้าแม่บ้านประจำตึก ที่พูดต่อหน้าพ่อของนิสิตสาว ป.เอก ทำให้คดีพลัดตกตึกชั้น 6 เสียชีวิตของ น.ส.อาภาพร นักศึกษา ป.เอก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ยังคงต้องเกาะติดความคืบหน้า ในการสืบหาข้อเท็จจริงกันอย่างใกล้ชิดต่อไป
ด้านความเคลื่อนไหวของ คุณพ่อของนิสิตสาวป.เอก คือ นายสมชาย สีชำนาญ พ่อของ เมื่อวันที่ 18ธ.ค.66 ก็ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.เศรษฐพันธ์ ศรีสาคร ผกก.สน.โชคชัย เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีและหารือร่วมกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ รวมทั้งเพื่อสอบถามถึงการชดเชยเยียวยาความสูญเสียที่เกิดขึ้น
ซึ่งได้เดินทางมาพร้อมกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด โดย นายเอกภพ กล่าวว่า ต้องการพาพ่อผู้เสียชีวิตมาสอบถามกับ ผกก.สน.โชคชัย ว่าจะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาผู้ก่อเหตุในความผิดเรื่องเจตนาฆ่าได้หรือไม่
เพราะผู้ตายไม่ได้ตกตึกลงมาเอง แต่เป็นเพราะผู้ก่อเหตุมาเคาะประตูรัวๆ ส่งเสียงดังในเวลา 04.00น.จนทำให้ผู้ตายซึ่งเป็นผู้หญิงที่อยู่อาศัยคนเดียวและเป็นคนตกใจง่ายอยู่แล้ว เกิดความตื่นกลัวและหาวิธีเอาตัวรอดก่อนพลัดตกตึกเสียชีวิตดังกล่าว
ด้าน ผกก.สน.โชคชัย กล่าวว่า หลังเกิดเรื่องได้ประสานแม่ผู้ตายมาสอบถามและเน้นย้ำว่าจะทำคดีอย่างเต็มที่ และได้แจ้งข้อกล่าวหาได้ 3 ข้อหาผู้ก่อเหตุไปแล้วเบื้องต้น ฐานพยายามบุกรุกยามวิกาล , ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว และ ทำให้เกิดเหตุอึกทึกครึกโครม
แต่การสอบปากคำยังไม่แล้วเสร็จ ยังคงต้องสอบปากคำพยานอื่นที่พักในชั้นเดียวกันกับผู้ตายเพิ่มเติม เบื้องต้นสอบพยานแล้ว 5 ปาก และจะเชิญแม่บ้านผู้ดูแลตึกที่บอกห้องผู้ตายให้กับผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำเช่นกัน รวมถึงจะส่งภาพจากกล้องวงจรปิดให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุเพื่อประกอบการพิจารณาการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม
ซึ่ง ผบช.น. ได้สั่งตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวน บก.น.4 เพื่อหารือเกี่ยวกับการแจ้งข้อหาเดิมว่าเพียงพอแล้วหรือไม่ ส่วนการชดเชยเยียวยาโดยกรมคุ้มครองสิทธิฯ หากพิจารณาแล้วเข้าข่ายตามกฎหมายจะได้รับการช่วยเหลือเป็นเงินค่าดำเนินการต่างๆ ทั้งเงินทำศพและเงินเยียวยารวม 1 แสนกว่าบาท