- 24 ธ.ค. 2566
พยาบาลสาวร้องทุกข์ หลังพาแม่เข้ารับการผ่าตัดต้อกระจก แต่หมอเกิดรักษาผิดพลาด เกิดติดเชื้อรุนแรง ต้องควักลูกตาทิ้ง แม่
24 ธ.ค.66 พยาบาลสาว รพ.รัฐแห่งหนึ่งในจังหวัดราชบุรี พาแม่เดินทางเข้าร้องเพจสายไหมต้องรอด หลังพาแม่เข้ารับการผ่าตัดต้อกระจก แต่หมอเกิดรักษาผิดพลาด ทำให้ติดเชื้อรุนแรง ต้องควักลูกตาทิ้ง โดย นาง รุ่งทิพย์ ประวัติศรี อายุ 51 อาชีพพยาบาล กล่าวว่า นาง นาง มัก แช่ตั้ง แม่ของตนนั้น มีอาการตามองเห็นไม่ชัดจึงได้พาไปตรวจที่คลินิกแห่งหนึ่งใน จ.ราชบุรีเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
และได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ผู้ตรวจที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่งในจ.ราชบุรี ว่าเป็นต้อกระจกที่ตาซ้าย จึงได้เสนอแพ็คเกจการผ่าตัดต่างๆซึ่งตนและแม่มีความไม่สะดวกบ้างอย่างในแพ็คเกจเหล่านนี้ เช่นไม่สะดวกไปช่วงเวลาในการผ่าตัดนั้นๆ ตนถึงเลือกที่จะจ่ายเงิน 25,000 บาท ซึ่งสามารถวัดเลนส์ได้วันนั้นเลยและสามารถไปผ่าตัดได้ที่ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งของจ.ราชบุรีได้เลยในวันที่ 15 พฤษภาคม
แต่ภายหลังจากการผ่าตัดนั้นตนได้ สังเกตตาของแม่ในขณะที่มีการนัดดูตาหลังผ่าตัดที่คลินิกดังกล่าวพบว่าดวงตาข้างที่ผ่าตัดมานั้น มีรอยแดงคล้ายเลือดออกในตา แต่หมอคนที่รักษาได้บอกกับตนว่าเพิ่งผ่าตัดมาดวงตาอาจจะยังไม่ สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ขนาดนั้นอาจจะมีสีเเดงในตาอยู่บ้าง
แต่ปรากฏว่าหลังจากมีการนัดดูตาขึ้นอีก7วันหลังจากนั้น ก็ได้มีการแจ้งจากแพทย์ที่รักษาคนดังกล่าวว่าตาของแม่นั้นมีการติดเชื้อ ต้องมีการไปรักษาตัวด่วนที่โรงพยาบาลบ้านแพ้ว ถึงได้มีการนัดจากแพทย์คนดังกล่าวว่าให้ไปรับยาฆ่าเชื้อในวันที่ 23 พฤษภาคม ที่โรงพยาบาลที่ตนทำงานอยู่
เพราะตนและแพทย์คนดังกล่าวนั้นทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งเดียวกัน แต่พอไปถึงกลับไม่ได้ให้ยาดังกล่าวมีเเต่การเขียนใบบันทึกข้อความและบอกให้ตนนั้นรีบพาไปรักษาที่โรงพยาบาลบ้านแพ้ว พอตนและแม่ได้ไปถึงโรงพยาบาลดังกล่าวก็ได้ผ่าตัดในวันนั้นเลย
โดยภายหลังการผ่าตัดตาอีกรอบในวันรุ่งขึ้น ตาสองข้างนั้นแทบจะไม่สามารถมองเห็นได้ เพราะการอักเสบนั้นบวมไม่สามารถไม่สามารถมองเห็นได้ ซึ่งแพทย์ได้ส่งสัญญามาให้ตนแล้วว่าการอักเสบในครั้งนี้นั้นอาจจะต้องมีการควักลูกตาออก ซึ่งแพทย์พูดรักษานั้นได้ทำการรักษาอย่างสุดความสามารถแล้ว
แล้วก็ควักลูกตาออกเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตอนนี้ตาข้างซ้ายของแม่ไม่มีลูกตาเป็นลูกตาปลอม หลังเกิดเหตุแพทย์เป็นคนที่ทราบคนแรกว่าติดเชื้อ แต่ทางแพทย์ไม่ได้กลับไม่ได้แจ้งโรงพยาบาลว่ามีการติดเชื้อ ตนมีข้อสงสัยเพราะว่า การติดเชื้อมันเป็นการติดเชื้อภายใน 7 วันหลังการผ่าตัด จึงไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม ทางศูนย์ดำรงธรรมส่งเรื่องไปให้สาธารณสุขจังหวัด พบข้อบกพร่องหลายอย่าง
แต่สรุปว่า ห้องผ่าตัดได้มาตรฐาน โดยแพทย์ไม่เคยโทรศัพท์มาสอบถามอาการของคนไข้เลย อ้างว่าไม่สามารถหาเบอร์ของโทรศัพท์ของตนได้ ทั้งที่ตนทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ เป็นบุคลากรทางการแพทย์เช่นเดียวกัน
ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 66 ตนได้พบกับแพทย์ผู้รับทำการผ่าตัดโดยมีรองผู้อำนวยการโรงพยาบาล และหัวหน้าแผนกศูนย์คุณภาพ ทางโรงพยาบาลแจ้งว่า จะแสดงความรับผิดชอบ ดำเนินการให้แม่ได้โดยใส่ตาปลอม ขอระยะเวลา 6 เดือนแต่พอครบ 6 เดือนแต่กลับไม่มีการแสดงความรับผิดชอบใดๆ เหมือนเรื่องไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ตนจึงได้ประสานกับพยาบาลที่ตนรู้จักผู้เป็นคนประสานได้แจ้งว่าได้คุยกับแพทย์ผู้ผ่าตัดหลายครั้ง ได้คำตอบว่า ให้รอประกันสรุป ทำให้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ตนคิดว่าฝ่ายแพทย์คงไม่ดำเนินการตามข้อตกลงแน่ๆ
สุดท้ายเรื่องเงียบ จึงมาขอร้องความเป็นธรรมกับทางเพจสายไหมต้องรอด แต่กรณีนี้ตนยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีแต่อย่างใด อยากกล่าวถึงแพทย์สภาว่า ตนได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังแพทยสภาถึงมาตรฐานการรักษาคุณธรรมจริยธรรมของแพทย์ท่านนี้ ขอให้ท่านตัดสินและชี้ขาดตามกระบวนการยุติธรรมให้มีความเป็นธรรมแก่ครอบครัวด้วย
ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า เอกสารของผู้เสียหายได้มีการร้องเรียนในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย ขอฝากถึงแพทย์สภา สาธารณสุขจังหวัดราชบุรี ให้ลงมาตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง
ทั้งนี้อาม่าผู้เป็นฝ่ายสูญเสียดวงตาควรได้รับการเยียวยาที่สมเหตุสมผล เพราะตนเข้าใจความรู้สึกดีว่า ลูกสาวเป็นห่วงคุณแม่นำไปผ่าต้อกระจกสุดท้ายต้องควักดวงตาของคุณแม่ไป และชีวิตของคุณแม่ไม่เหมือนเดิม ขนาดแค่หั่นฝรั่งยังเอามีดเฉือนเนื้อตัวเองด้วยความที่ไม่เคยชิน เมื่อเหลือดวงตาเพียงข้างเดียว ขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยว่า เป็นการกระทำโดยประมาทหรือไม่