- 20 ม.ค. 2567
วัยรุ่นชายพร้อมแม่เดินทางมาร้องขอความช่วยเหลือกรณีถูกแก๊งโจ๋อันธพาลรุมทำร้ายอาการสาหัส โดยพฤติกรรมของแก๊งนี้อันตรายไม่แพ้แก๊งลูกตำรวจอรัญประเทศ
วันที่ 20 ม.ค. 2567 ที่ทำการเพจสายไหมต้องรอด ซอยสายไหม 38 เมื่อเวลา 13.40 น. น.ส.ฉัตรมงกต นำ ด.ช.เอ (นามสมมติ) ลูกชายอายุ 13 ปี นักเรียนชั้นป. 6 เข้าขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กรณีถูกแก๊งวัยรุ่นอันธพาล "แก๊งทรายทอง" ของ "ตี๋ ท่าทราย" และพวกรวม 7 คน เป็นเยาวชน รุมทำร้ายได้รับบาดเจ็บ ดั้งหัก แก้วหูแตก เลือดช้ำในปอด และบาดแผลอื่น ๆ ตามร่างกาย โดยแพทย์มีความเห็นว่า ต้องมีการผ่าตัดเพื่อรักษาเพิ่มเติมภายหลัง
ด.ช.เอกล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ม.ค.2567 ที่ผ่านมา ในหมู่บ้านเมืองทอง ซอยสามัคคี พื้นที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี เนื่องจาก"แก๊งทรายทอง" มีการนัดหมายให้ตนไปพูดคุยเพื่อเคลียร์ปัญหาระหว่างเพื่อนสาวของตนกับฝ่ายชายเป็นแฟนเก่า เป็น 1 ในแก๊งทรายทอง
แต่เมื่อไปถึงไม่สามารถเจรจาได้ "ตี๋ท่าทราย" หัวหน้าแก๊งสั่งให้ชกต่อยกันตัวต่อตัว แต่ไม่ทันได้ต่อยกลับถูกแก๊งดังกล่าวรุมทำร้าย เตะเข้าที่ใบหน้า 2 ครั้ง บังคับให้นอนก่อนถูกรุมทำร้ายอีก พร้อมขู่บังคับห้ามบอกผู้ปกครอง แต่ให้บอกว่าได้รับบาดแผลจากอุบัติเหตุรถล้ม แต่แม่ของตนเองไม่เชื่อ จึงพาไปรักษาและคาดคั้นจนตนเองเล่าความจริงให้แม่ฟัง
ด.ช.เอกล่าวว่า สำหรับแก๊ง "ทรายทอง" มี "ตี๋ ท่าทราย" อายุ 18 ปี เป็นหัวหน้าแก๊ง มีสมาชิกกว่า 10 คน ทั้งหมดอายุไม่เกิน 18 ปี ต่ำสุดอายุ 12 ปี ซึ่งแก๊งนี้จะมีพฤติกรรมนำเรื่องราวต่าง ๆ มาเล่าให้ตนฟัง พร้อมนำภาพถ่ายคลิปวิดีโอที่รุมโทรมหญิงรายหนึ่งในพื้นที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ มาเปิดโชว์ เพื่อข่มขู่ รวมทั้งยังมีการกล่าวอ้างว่า เคยมีการทำร้ายร่างกาย และตัดนิ้วคู่อริมาแล้ว
ขณะที่ น.ส.ฉัตรมงกตกล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุตนได้รวบรวมพยานหลักฐาน เคยไปเจรจากับแก๊งที่ทำร้ายลูก โดยหนึ่งในสมาชิกแก๊งได้ยอมรับกับตนว่า ลงมือทำร้ายจริง แต่เมื่อตนนัดหมายให้ออกมาเจอเพื่อล่อให้ตำรวจจับกุม ผู้ก่อเหตุกลับไม่มาตามนัด จากนั้นจึงได้ข่มขู่ลูกตนผ่านไลน์กลุ่ม ว่า "ถ้าxไม่ติดคุก มึxก็ต้องตาย" พร้อมกับโชว์ถังน้ำมันขนาด 100 ลิตร และข่มขู่ว่าจะเผาบ้าน ทำให้ตนและลูกเกิดความหวาดกลัว
ด้านนายเอกภพกล่าวว่า ขณะนี้ ผบ.ตร. ได้มีการสั่งการให้ทลายแก๊งเยาวชนที่มีการก่อเหตุรุนแรงในลักษณะนี้ทั่วประเทศ ดังนั้นกฎหมายควรเอาผิดกับเยาวชนที่มีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงอย่างเต็มที่ อีกทั้งพฤติกรรมของแก๊งนี้มีลักษณะคล้ายกับกรณีที่อรัญประเทศ ที่ก่อเหตุหลายครั้งแต่ยังไม่ถูกจับกุม