- 01 ก.พ. 2567
เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เดินหน้าร้อง กกต. ชงศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกล หาเสียงแก้ม.112 ล้มล้างการปกครอง เคยมีพรรคเดียวที่เคยโดนคือไทยรักษาชาติ
1 ก.พ. 67 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางเข้ายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อยุบพรรคก้าวไกล โดยอ้างอิงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ระบุชัดเจนว่า การแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล เข้าข่ายล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงถือว่าเข้าเงื่อนไขตามมาตรา 92 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง เรื่องการกระทำล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข
นายเรืองไกร ยังกล่าวว่า ผลของคดีเมื่อวานนี้ 31 ม.ค.67 จะผูกพันมาถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง กกต.ซึ่งต้องทำตามหน้าที่และอำนาจ เพราะเป็นความปรากฎ อยู่เฉยไม่ได้ ต่อมา คือ ป.ป.ช.ตนเองและ รัฐสภา หากกรณีเช่นนี้อีกหรือการอภิปราย ประธานรัฐสภาจะต้องห้ามให้ดำเนินการเช่นนี้อีก
วันนี้มายื่นคำร้องโดยใช้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 วงเล็บ 1 และ วงเล็บ 2 โดย วงเล็บ (1) คือ ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
ดังนั้นถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามมาตรา 49 แล้ว คำว่าล้มล้างการปกครองฯอยู่ใน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 (1) (2) ที่อาจเป็นปฏิปักษ์ ซึ่งในกรณีนี้มีพรรคเดียวที่เคยโดนคือพรรคไทยรักษาชาติ ดังนั้นแล้วตนจึงยื่นเรื่องขอให้กกต.นำผลคำวินิจฉัยดังกล่าวของศาล ไปยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยยุคพรรคก้าวไกล ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 (1) (2)
ส่วนเรื่องพรรคก้าวไกลจะถูกยุบหรือไม่ นายเรืองไกร กล่าวว่า ไม่น่าจะรอด เพราะศาลวินิจฉัยว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง ซึ่งก็จะส่งผลให้คณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปีด้วย