- 02 ก.พ. 2567
นักธุรกิจหนุ่ม ซึ่งเป็นผู้โดยสารที่โวยกัปตันการบินไทย บินเมลเบิร์นแต่ลงซิดนีย์ ขอน้อมรับผิด ประกาศลาออกจากบริษัทโฆษณาชื่อดัง
จากกรณีดราม่าที่ นักธุรกิจหนุ่มรายหนึ่ง ได้โดยสารไปกับเที่ยวบินของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG465 เส้นทางกรุงเทพฯ-เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2567 ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวตำหนิว่าการบินไทยตั้งแต่การบริการ เครื่องบิน กัปตันและนักบิน กล่าวหาว่ากัปตันโกหกว่าทัศนวิสัยไม่ดี เจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ (ATC) ให้วน 20 นาที น้ำมันไม่พอต้องลงจอดที่สนามบินซิดนีย์ โดยยกประสบการณ์ที่ตนขึ้น-ลงสนามบินเมลเบิร์นมาไม่ต่ำกว่าพันรอบ
จนกระทั่งต่อมา เพจนักบินอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ออกมาตำหนินักธุรกิจหนุ่มคนดังกล่าว ว่าเป็นการแสดงความไม่รู้ ใช้คำดูถูกด้อยค่ากัปตันและนักบิน ทั้งที่ช่วงดังกล่าวทัศนวิสัยต่ำ 200 เมตรและหมอกหนา และช่วงเวลาเดียวกันมีเครื่องบินเปลี่ยนทิศทางไปยังสนามบินสำรอง (Divert) ซึ่งข่าวอากาศการบินไม่เหมือนในโทรศัพท์มือถือ อีกทั้งนักบินต้องผ่านการสอบภาษาอังกฤษด้านการบินทุกคน การลงสนามบินเป็นไปตามลำดับคิวไม่มีต่อรอง ยืนยันว่านักบินการบินไทยมาตรฐานระดับโลก และมีคนรักที่รอกลับบ้านอยู่เช่นกัน กรุณาให้เกียรตินักบินคนที่ดูแลชีวิตด้วย
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2567 การบินไทย ได้ออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่า "ตามที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ กรณีมีผู้โพสต์ข้อมูลการปฏิบัติการบินของบริษัทฯ ในเที่ยวบิน TG 465 วันที่ 28 มกราคม 2567 เส้นทาง กรุงเทพฯ - เมลเบิร์น ซึ่งมีความจำเป็นต้องนำเครื่องบินลงจอดยังท่าอากาศยานทางเลือก ด้วยเหตุผลด้านสภาพอากาศที่สนามบินเมลเบิร์น และต่อมาผู้โพสต์ได้โพสต์แสดงความเสียใจต่อการเขียนข้อความ ซึ่งไม่ได้ผ่านการกลั่นกรอง และขออภัยต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำอันเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้โพสต์ข้างต้น นั้น
บริษัทฯ ขอเรียนยืนยันว่าบุคลากรการบินของบริษัทฯ ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ตามกระบวนการที่ได้จัดทำและถือปฏิบัติตามมาตรฐานด้านความปลอดภัย และนิรภัยการบินในระดับสากล ผ่านการตรวจสอบรับรอง โดยหน่วยงานกำกับดูแลทั้งภายในประเทศและในระดับนานาชาติ โดยมีเป้าหมายสำคัญในการปฏิบัติการบินที่ปลอดภัยแก่ผู้โดยสารในทุก ๆ เที่ยวบิน"
ล่าสุดทางด้าน นักธุรกิจ ผู้โดยสารที่เป็นเจ้าของโพสต์ดราม่าดังกล่าว ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก ขอโทษทุกฝ่ายกรณีได้กระทำการอันไม่สมควร พร้อมแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากทุกตำแหน่งที่ปฏิบัติหน้าที่ในบริษัทเอเจนซี่ยักษ์ใหญ่ด้านสื่อ และขออภัยทุกฝ่ายที่ผิดหวังและได้รับผลกระทบ โดยมีข้อความระบุว่า
"สืบเนื่องจากเหตุการณ์วันที่ 29 มกราคม 2567 ที่กระผมได้กระทำการอันไม่สมควรซึ่งก่อให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสร้างความเสื่อมเสียต่อ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) อย่างยอมรับไม่ได้ จากเหตุการณ์แสดงความไม่พอใจในการให้บริการของการบินไทย รวมถึงการตำหนิการปฏิบัติหน้าที่ของนักบินในเที่ยวบิน ด้วยข้อความและถ้อยคำไม่สุภาพ ดูถูกนักบิน และใช้คำพูดหยาบคายอย่างไม่เหมาะสมที่สุดจนทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนต่อการปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงมาตรฐานความปลอดภัยของการบินไทยและนักบินผู้ปฏิบัติหน้าที่ในเที่ยวบินดังกล่าว
ผมได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนและตระหนักได้ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่สมควรและไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง ดังนั้น เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำของผม ผมจึงมีความประสงค์ขอลาออกจากทุกตำแหน่งที่กระผมปฏิบัติหน้าที่อยู่ในปัจจุบันที่ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) และขอกราบอภัย บริษัท การบินไทย, นักบิน และทุกคนที่เกี่ยวข้อง และขอกราบอภัย ผู้ถือหุ้น กรรมการบริษัท ผู้บริหาร พนักงาน ของบริษัท แพลน บี และพี่ๆ เพื่อนๆ และทุกคนที่ผมรักและเคารพที่ผมทำให้ผิดหวัง ตลอดจนผู้ได้รับผลกระทบจากการกระทำอันเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของกระผมมา ณ ที่นี้ โดยให้มีผลนับตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2567 เป็นต้นไป
ผมเข้าใจว่ามันอาจไม่มีความหมายมากมายอะไรกับทุกคนที่ได้รับผลกระทบ แต่ผมก็จริงจังและจริงใจที่จะขอโทษในสิ่งที่ผมทำลงไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ผมเสียใจและขออภัยและขอน้อมรับความผิดทั้งหมดที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ไว้แต่เพียงผู้เดียวครับ
ขออภัยอีกครั้งเป็นอย่างสูงและขอแสดงความนับถือครับ"