- 13 ก.พ. 2567
ทนายสั่งตัดกุญแจบ้านปรปักษ์ ยันอากู๋คือเจ้าของกรรมสิทธิ์ ลั่นดำเนินคดีถึงที่สุดพวกจ้องยึดบ้านคนอื่น พร้อมปลดป้ายไวนิลไก่ตะเกียบทอดน้ำปลาออก
คืบหน้าล่าสุดกรณีการครอบครองปรปักษ์ของหลาน"อากู๋ เหมทัศน์"ในบ้านหลังหนึ่ง ย่านรามอินทรา ที่ทิ้งร้างมานานกว่า 30 ปี และมีเพื่อนบ้านเข้าไปต่อเติม และอ้างว่าอยู่อาศัยตั้งแต่ปี 54 อ้างสิทธิ์ว่าครอบครองมาเกิน 10 ปี ล่าสุดวันที่ 13ก.พ.67 นายซัน-นางสาวอาย หลานชายและหลานสะใภ้ของอากู๋ เหมทัศน์ พร้อมทนายกุ้ง น.ส.อำนวยพร มณีวรรณ์ ทีมทนายความของ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เดินทางมาที่ สน.โคกคราม เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อลงบันทึกประจำวันพร้อมขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตัดกุญแจที่บ้านพิพาทและเก็บของกลาง เป็นหลักฐาน
โดยนายซัน บอกว่า ตนเองและภรรยา ในฐานะผู้ได้รับมอบอำนาจ จาก อากู๋ ประสงค์ที่จะดำเนินคดีกับ น.ส.ศรีพรรณ พร้อมกับพวกที่มีการบุกรุกเข้าไปในบ้านพิพาทหลังดังกล่าว ประกอบอาหาร ขายไก่ตะเกียบทอดน้ำปลา ในคดีฐานบุกรุก ลักทรัพย์และทำให้เสียทรัพย์
ซึ่งตนเองมองว่าเกินที่จะเจรจาไกล่เกลี่ยกันได้แล้ว เพราะรอบนี้ถือว่าเป็นการบุกรุกครั้งที่ 2 ถึงต้องมีการดำเนินคดีเพิ่มเติม โดยตนเองได้เก็บหลักฐานไว้หมดแล้วว่ามีใครเป็นผู้บุกรุกบ้าง ไม่กังวลหากทางคู่กรณีไม่แสดงตัวหรือปฏิเสธ เพราะมีหลักฐานชัดเจน ทั้งชื่อนามสกุลและตัวบุคคล
และหลังลงบันทึกประจำวัน และแจ้งความดำเนินคดี ตำรวจ สน.โคกคราม นายซันเจ้าของบ้านและทีมทนายความได้พาช่างกุญแจมาที่บ้านพอพาทดังกล่าว ก่อนที่พนักงานสอบสวนจะถามว่ามีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของบ้านหรือไม่ซึ่งไม่มีบุคคลอื่นมาแสดงตัว มีเพียงนายซัน ทายาทอากู๋เท่านั้น
ซึ่ง ช่างกุญแจ ปีนเข้าไปในบ้านเพื่อมาดำเนินการตัดกุญแจที่หน้าบ้านพิพาท ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีก็สามารถตัดกุญแจเข้าไปด้านในได้ ซึ่งภายในบ้านจะมีข้าวของเครื่องใช้อุปกรณ์ทำครัวโต๊ะ เก้าอี้และเฟอร์นิเจอร์รับแขกบางส่วนอยู่ด้านในบ้านด้วย
ด้าน ทนายกุ้ง เปิดเผยว่า ทรัพย์สินต่างๆภายในบ้านจะต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดไว้เป็นของกลางเป็นหลักฐานและดำเนินคดี เบื้องต้นตอนนี้ 1 คน คือ นางสาวศรีพรรณ ที่แสดงชื่อแสดงตัวติดป้ายอยู่หน้าบ้าน ส่วนใครที่เกี่ยวข้องกับการบุกรุกครั้งนี้จะต้องให้ตำรวจดำเนินคดีหมดทุกคน หากมีการต่อน้ำ ต่อไฟ มาจากบ้านไหนก็ต้องดำเนินคดีด้วยฐานสนับสนุนในการกระทำผิด
ส่วนนายซัน ก็ได้ขนเสื้อผ้าของใช้จะนอนที่บ้านหลังดังกล่าวคืนนี้ด้วย พร้อมกับมีการปลดป้ายไวนิลไก่ตะเกียบทอดน้ำปลาออกและนำป้ายแสดงความเป็นเจ้าของ ของในซันหลานอากู๋ขึ้นมาติดแทน โดยมีข้อความระบุว่า
พื้นที่ส่วนบุคคลห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาตหรือเข้ามากระทำการใดๆทั้งสิ้นหากฝ่าฝืนจะดำเนินคดีตามกฎหมาย