- 27 มี.ค. 2567
สพฐ. สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน รอง ผอ. โรงเรียนย่านนนทบุรี เอี่ยวคดีค้ายาเสพติด ย้ำชัดดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด เร่งสอบวินัยร้ายแรง
27 มี.ค.67 กรณีการจับกุม รองผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อดังย่านปากเกร็ด จ.นนทบุรี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.318/2564 ลงวันที่ 20 มิ.ย. 64 ข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและพยายามจำหน่าย” และหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.189/2564 ลงวันที่ 12 ต.ค. 64 ข้อหา “พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ครอบครองเพื่อจำหน่ายและเสพ-เมทแอมเฟตามีน)”
โดย นายเศรษฐยศ หรือ เจ๊เก่ง รอง ผอ.โรงเรียนดังย่านปากเกร็ด มีประวัติถูกดำเนินคดียาเสพติดกว่า 4 คดี ประกอบไปด้วย
1.พ.ศ.2557 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ครอบครองยาเสพติด (ยาไอซ์) เพื่อจำหน่าย” พื้นที่ สน.สุทธิสาร
2.พ.ศ.2560 ถูกดำเนินคดีข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1” พื้นที่ สน.สุทธิสาร
3.พ.ศ.2562 ถูกดำเนินคดีข้อหา “มียาเสพติดประเภท 1 (แอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครอง” พื้นที่ สน.บางโพงพาง
4.พ.ศ. 2564 ถูกดำเนินคดีข้อหา “มียาเสพติดประเภท 1 (แอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย” พื้นที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ
ในชั้นจับกุม นายเศรษฐยศ รองผู้อำนวยการโรงเรียนดังในจังหวัดนนทบุรี ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ปัจจุบันตน ประกอบอาชีพรับราชการครูตำแหน่งรองผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง สอนวิชาการงานอาชีพให้แก่เด็กชั้นประถมศึกษา โดยตนเริ่มเสพยาตั้งแต่กลางปี พ.ศ. 2566 และเริ่มสั่งยาเสพติดมาจากทวิตเตอร์มาขายในช่วงต้นปี พ.ศ. 2567
และล่าสุด สพฐ.ได้สั่งให้ รองผอ.ค้ายา ให้ออกราชการไว้ก่อน พร้อมตั้งสอบวินัยร้ายแรงซ้ำ โดยวันที่ 274 มี.ค.67 นายธีร์ ภวังคนันท์ รองโฆษกสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองโฆษก สพฐ.) เปิดเผยว่า ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. ได้รับทราบและมอบหมายให้ตนพร้อมด้วยทีมศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย สพฐ. (ศสป.สพฐ.) ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทันที
และพบว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ข้าราชการรายดังกล่าวได้อยู่ในการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งข้อหาที่ถูกจับกุมถือเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง จึงได้สั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่ฯ ดำเนินการอย่างเด็ดขาดในทันที
ขณะนี้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 2 ต้นสังกัดของโรงเรียนดังกล่าว ได้พิจารณามีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง และสั่งให้ข้าราชการรายดังกล่าวออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว
เพื่อทำการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น จากนั้นก็จะดำเนินการตามระเบียบของทางราชการต่อไป อีกทั้งได้มอบหมายให้คณะกรรมการสอบสวนวินัยฯ ติดตามการขยายผลของเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกทางหนึ่ง เพื่อนำข้อเท็จจริงเข้าสู่การตรวจสอบในเชิงลึก และรายงานความคืบหน้าของเหตุการณ์ให้ สพฐ. ทราบต่อไป
"ในประเด็นดังกล่าว พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. ได้สั่งการให้ติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งดำเนินการขั้นเด็ดขาด เพราะประเด็นเรื่องการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในสถานศึกษานี้เป็นนโยบายที่กระทรวงศึกษาธิการและ สพฐ. ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจในด้านความปลอดภัยแก่นักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา
โดยที่ผ่านมาได้เน้นย้ำและกำกับสถานศึกษามาโดยตลอดว่าจะต้องเป็นสถานที่ปลอดภัยจากสารเสพติดทุกชนิด รวมถึงผู้บริหาร ครูและบุคลากรในโรงเรียนด้วย จะต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเสพติดไม่ว่าประเภทใดก็ตาม เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน หลังจากนี้ก็จะกำชับให้ผู้บริหารสถานศึกษาทั่วประเทศ และหน่วยงานในกำกับทุกสังกัด ตรวจตราเรื่องยาเสพติดอย่างเข้มข้นทั้งภายในและบริเวณรอบสถานศึกษา และต้องร่วมกันสอดส่องดูแลพฤติกรรมเสี่ยงของบุคลากรที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนการป้องกันปัญหายาเสพติดอย่างรอบด้านครบทุกมิติ ให้สถานศึกษาปลอดภัย "เรียนดี มีความสุข" เกิดขึ้นได้จริง"